ปัตตานี - ปลัดอำเภอเมือง จ.ปัตตานี ปลาบปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งยังเด็กได้มีโอกาสได้เข้ารับเสด็จ และได้รับจดหมายมงคลตอบกลับจากสำนักพระราชวังตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา
วันนี้ (21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอลงกรณ์ คลังข้อง อายุ 35 ปี เป็นปลัดอำเภอเมือง จ.ปัตตานี ได้เล่าเรื่องราวสมัยยังเด็กในขณะที่มีโอกาสได้เข้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มัสยิดกลาง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2536 ว่า ในขณะนั้นตนเองอายุได้เพียง 14 ปี ยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ข่าวว่าทั้ง 2 พระองค์ได้เสด็จมาที่มัสยิดกลาง จ.ปัตตานี เพื่อเยี่ยมเยือนราษฎรชาวไทยมุสลิม ด้วยความเป็นเด็กจึงได้รีบเดินทางเข้ามาปะปนกันประชาชนนับพันคนที่คอยรับเสด็จ โดยตนเองไม่ได้บอกกล่าวต่อทางบ้าน ทั้งนี้ เพื่อที่ต้องการชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่าน ซึ่งเมื่อได้พบพระองค์ท่านก็เกิดความประทับใจ และชื่นชมในพระบารมีที่พระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยไม่แบ่งเชื้อชาติศาสนา
การที่ได้เข้ารับเสด็จในครั้งนั้น ทำให้ตนได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะตั้งใจเรียนจนจบระดับปริญญา และจะเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นอีกแรงหนึ่งในการสนองพระยุคลบาทในการดูแลประชาชน จนกระทั่งปัจจุบัน ตนได้มีโอกาสสอบบรรจุเป็นปลัดอำเภอ และได้ทำงานช่วยเหลือประชาชนอย่างที่ได้ตั้งใจไว้
จนกระทั่งปี 2550 ตนได้ตัดสินใจเขียนหนังสือถวายพระพรชัยมงคล ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะได้รับหนังสือตอบจากสำนักราชเลขาธิการพระบรมราชวัง ว่า พระองค์ท่านทรงขอบใจที่ข้าพเจ้าได้ถวายพระพรชัยมงคล ซึ่งได้สร้างความดีใจ และปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงรักใคร่พสกนิกรชาวไทยทุกคน
จากนั้นตนเองก็ได้เขียนหนังสือถวายพระพรชัยมงคล ถวายแด่พระองค์ท่านในวันเฉลิมพระชนมพรรษา และวันขึ้นปีใหม่ทุกปี และได้รับหนังสือตอบกลับกว่า 20 ฉบับ และล่าสุด ในโอกาสครองราชย์ 70 ปี ตนเองก็ได้เขียนหนังสือถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ทรงครองราชสมบัติปีที่ 70 และได้รับหนังสือตอบจากสำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวังเฉกเช่นเดิม แต่ก็ไม่คาดคิดว่าหนังสือฉบับนี้จะเป็นหนังสือฉบับสุดท้าย เนื่องจากพระองค์ท่านทรงสวรรคต สร้างความเสียใจให้ตนเองอย่างมาก และยังคงทำใจไม่ได้ทุกครั้งเมื่อนึกถึงพระองค์ท่านที่ทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อพสกนิกรชาวไทย
นายอลงกรณ์ คลังข้อง อายุ 35 ปี ปลัดอำเภอเมือง จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า หลังจากรับเสด็จในวันนั้นซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ศึกษาเล่าเรียน และสามารถบรรจุรับราชการเป็นปลัดอำเภอ เพื่อเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ซึ่งในแต่ละปีตนจะเขียนหนังสือถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ฉบับแรกปี 2550 ตนได้เขียนถวายเนื่องในโอกาสปีใหม่ จากนั้นก็มีหนังสือจากสำนักพระราชเลขาธิการตอบกลับมาว่า “ทรงขอบใจที่ข้าพเจ้าถวายพระพรชัยมงคล” ถือเป็นหนังสือฉบับแรกที่ทำให้ตนปลาบปลื้มใจ และตนก็ได้เขียนหนังสืออีกหลายฉบับทุกปี ตนก็ได้รับหนังสือทรงขอบใจกลับมาทุกครั้ง และตลอด 9 ปี ก็ได้เขียนไปแล้วเกือบ 20 ฉบับ
และเมื่อสำนักพระราชวัง ออกประกาศว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ยังความเศร้าโศกให้แก่พี่น้องชาวไทยมุสลิมเป็นอย่างมาก พระองค์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก ทรงปฏิบัติทุกศาสนาเท่าเทียมกันหมด ตนยังจำได้เมื่อ ฯพณฯ วันมูหะหมัดนอร์ มะทา เสนอร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ต่อพระองค์ท่าน พระองค์ท่านทรงตรัสว่า อะไรที่ไม่ถูกต้อง อะไรที่ปฏิบัติได้ก็ให้ปฏิบัติเถิด ซึ่งชี้ให้เห็นว่าพระองค์ท่านรักพสกนิกรชาวไทยมุสลิม พระองค์ท่านสร้างสำนักทักษิณราชนิเวศน์ ที่ จ.นราธิวาส เพื่อดูแลชาวไทยมุสลิมใน 14 จังหวัดภาคใต้ ยังความปลาบปลื้มให้แก่พสกนิกรชาวไทยมุสลิมทั้งปวง
