xs
xsm
sm
md
lg

รอง ผบ.ตร.ลงยะลาตามคดีสำคัญ พร้อมสอบปากคำผู้ต้องหาคดีวางระเบิด-วางเพลิงที่ภูเก็ต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ยะลาติดตามผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมของตำรวจภูธรภาค 9 และ ศชต. และคดีสำคัญ พร้อมร่วมสอบปากคำผู้ต้องหาตามหมายจับคดีวางระเบิด-วางเพลิง ที่จังหวัดภูเก็ต

วันนี้ (20 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดคดีคนร้ายก่อความไม่สงบพื้นที่ภาคใต้ และติดตามผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมของตำรวจภูธรภาค 9 และ ศชต. โดยมี พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้บังคับการตำรวจภูธรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ รายงานผลการปฏิบัติงานในพื้นที่

สำหรับตำรวจภูธรภาค 9 ได้รายงานสรุปผลการปฏิบัติงานระดมกวาดล้าง ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเพื่อจับกุมอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด และยาเสพติด ในห้วงตั้งแต่วันที่ 10-19 ต.ค.2559 ที่ผ่านมา สามารถจับกุมอาวุธปืนรวมทั้งสิ้น 32 กระบอก อาวุธปืนยาว M-16 จำนวน 2 กระบอก / กระสุน 5.56 มิล 20 นัด ปลอกกระสุน 13 นัด (อยู่ระหว่างส่งตรวจ สพฐ.) อาวุธปืนยาว M-4 จำนวน 1 กระบอก / กระสุน 5.56 มิล 18 นัด อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 8 กระบอก / กระสุน 26 นัด อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 20 กระบอก / กระสุน 108 นัด (อาวุธปืนขนาด .38/.45/ .357/ไทยประดิษฐ์) อาวุธปืนปากกา จำนวน 1 กระบอก

โดยแบ่งเป็นในพื้นที่ ภ.จว.สงขลา รวม 12 กระบอก อาวุธปืนยาว M-16 จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนยาว M-4 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 8 กระบอก อาวุธปืนปากกา จำนวน 1 กระบอก ในพื้นที่ ภ.จว.สตูล รวม 4 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 จำนวน 3 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 1 กระบอก ในพื้นที่ ภ.จว.ตรัง รวม 9 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 จำนวน 3 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 6 กระบอก และในพื้นที่ ภ.จว.พัทลุง รวม 7 กระบอก อาวุธปืนยาว ขนาด .22 จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น จำนวน 5 กระบอก

 
ในส่วนของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ร่วมกันระดมกวาดล้าง ในห้วง 10-19 ต.ค.59 มีผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหา พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ จับกุม 145 ราย ผู้ต้องหา 162 คน พร้อมของกลางยาเสพติด ยาบ้า รวมจำนวน 4,305 เม็ด เฮโรอีน รวมจำนวน 20.85 กรัม กัญชา รวมจำนวน 47.57 กรัม น้ำกระท่อม รวมจำนวน 558.46 กก. ใบกระท่อม รวมจำนวน 1,020.29 กก. ยาแก้ไอ รวมจำนวน 71 ขวด ยาแก้ไอ (ชนิดเม็ด) รวมจำนวน 71 ขวด ยาไอซ์ รวมจำนวน 2.73 กรัม

ส่วนการจับกุมตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ในห้วง 10-19 ต.ค.59 มีการจับกุม 8 ราย ผู้ต้องหา 9 คน พร้อมของกลางอาวุธปืน 18 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน ประกอบด้วย อาวุธปืน M-16 A1 รวมจำนวน 3 กระบอก อาวุธปืนลูกซอง รวมจำนวน 2 กระบอก อาวุธปืน 11 มม. รวมจำนวน 1 กระบอก อาวุธปืน 9 มม. รวมจำนวน 4 กระบอก อาวุธปืน .38 รวมจำนวน 2 กระบอก อาวุธปืน .380 รวมจำนวน 1 กระบอก อาวุธปืน .22 รวมจำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ รวมจำนวน 4 กระบอก กระสุนปืน 9 มม. รวมจำนวน 8 นัด กระสุนปืน .357 รวมจำนวน 1 นัด กระสุนปืน .38 รวมจำนวน 38 นัด กระสุนปืน .22 รวมจำนวน 4 นัด กระสุนปืนลูกซอง รวมจำนวน 16 นัด แม็กกาซีน รวมจำนวน 1 อัน ซองกระสุนปืน M-16 รวมจำนวน 1 ซอง รวมทั้งมีการจับกุมตามหมายจับคดีค้างเก่า ในห้วง 10-19 ต.ค.59 ภ.จว.นราธิวาส จับกุมตามหมายจับ 9 ราย ผู้ต้องหา 9 คน และจับกุมคดีลักทรัพย์ 1 คน

ส่วนคดีวิสามัญผู้ก่อเหตุรุนแรง เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่ ม.1 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ต.ค.59 จากการสืบสวน และขยายผลกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทราบว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ บ.ทับหลวง ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ต่อมา เจ้าหน้าที่ นปพ.ร่วม จ.ปัตตานี งานสืบสวนคดีความมั่นคงและคดีพิเศษ ฉก.สงขลา และ ฉก.ตชด.44 ได้ปิดล้อมบ้านไม่มีเลขที่ ม.1 บ.ทับหลวง ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา 
 

 
ขณะปิดล้อมพบผู้ก่อเหตุรุนแรง จำนวน 4 คน วิ่งหลบหนีออกทางหลังบ้าน และได้ยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัว เป็นเหตุให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต จำนวน 4 คน ทราบชื่อคือ 1.นายอับดุลวาฮับ ราตูยาแฮ อยู่บ้านเลขที่ 3/3 ม.6 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ผู้ก่อเหตุรุนแรง/หัวหน้า Regu มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุยิง และลอบวางระเบิดปลัดจักตรา ทหาร และตำรวจ ชุด EOD เป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อปี 2558 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก 

2.นายยาซะ สาและ อยู่บ้านเลขที่ 8/1 ม.2 ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ผู้ก่อเหตุรุนแรง/ระดับปฏิบัติการ (มือปืน) มีหมายจับ จำนวน 3 หมาย เคยถูกจับกุม 3 ครั้ง ครั้งล่าสุด เมื่อเดือน พ.ย.58 มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุยิงร้านส้มตำในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ก.ย.59 เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืน ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก 

3.นายรุสดี ปอสู อยู่บ้านเลขที่ 107 ม.2 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ผู้ก่อเหตุรุนแรง/มือระเบิด มีหมาย พ.ร.ก.ฯ จำนวน 1 หมาย มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุลอบวางระเบิดจำนวนหลายเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก และ 4.นายฟัดลาน เสาะหมาน อยุ่บ้านเลขที่ 112/2 ม.4 ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ผู้ก่อเหตุรุนแรง/หัวหน้า Regu มีหมาย ป.วิ อาญา 4 หมาย หมาย พ.ร.ก.ฯ 2 หมาย มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุลอบวางระเบิดรถไฟ เหตุยิงร้านส้มตำ เหตุยิงและวางระเบิดปั๊มน้ำมัน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก 

จากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าร่วมสอบปากคำ นายมูฮำหมัด มูฮิ ตามหมายจับศาลทหาร มทบ.41 ที่ จ.13/2559 ลง 29 ก.ย.59 และหมายจับที่ จ.15/2559 ลง 13 ต.ค.59 ในความผิดฐานร่วมกันมีหรือใช้วัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันพยายามวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และเป็นอั้งยี่ ซึ่งเกิดเหตุที่ตลาดพาราไดซ์ และตลาดไชน่าทาวน์ ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.59 ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้ควบคุมตัว นายมูฮำหมัด ไว้ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต่อมา วันที่ 19 ต.ค.59 ได้นำตัวมายื่นคำร้องขอปล่อยตัวที่ศาลจังหวัดปัตตานี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหา และจับกุมตัวนายมูฮำหมัด ดำเนินคดี จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น