ระนอง - ผวจ.ระนอง ทหาร ร่วมปกครอง จับเรือสัญชาติพม่า บรรทุกไม้ท่อนหลากหลายขนาดมาเต็มลำเรือ พร้อมชาวพม่า จำนวน 4 คน ลักลอบขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เตรียมส่งโรงเลื่อยในตัวเมืองระนอง ขณะกำลังขับเรือล่องมาทางแม่น้ำกระบุรี ในพื้นที่ ม.4 ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง ผจว.ระนอง สั่งดำเนินคดีให้เด็ดขาดไม่ว่าเป็นใคร
เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (11 ต.ค.) นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เข้าตรวจสอบการจับกุมไม้ท่อนเถื่อนจำนวนมากที่บริเวณ ม.4 ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง หลังได้รับรายงานจาก ร.ต.นิติธร จันทร์แก้ว หัวหน้าชุดกองร้อยรักษาความสงบ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 และนางพิชชาภา ภาสะเตมีย์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 พร้อมกำลังชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน อส. โดยได้ทั้งไม้ของกลาง และผู้กระทำผิดชาวพม่า จำนวน 4 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากทางทหาร และฝ่ายปกครองทราบข่าวว่า จะมีการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศ โดยใช้เส้นทางลำน้ำกระบุรี เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ เมื่อทราบข้อมูลจึงได้จัดกำลังผสมนั่งเรือออกลาดตระเวนตรวจสอบตลอดแนวแม่น้ำที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทาง โดยใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหา พบเรือต้องสงสัยมีชาวพม่า อยู่บนเรือ 4 คน จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ พบไม้ท่อนขนาดใหญ่หลายขนาด และหลากหลายชนิดเต็มลำเรือจำนวนมากกว่า 100 ท่อน จึงได้ขอตรวจหนังสือการอนุญาตนำไม้เข้า แต่ไม่มีหนังสืออนุญาตจึงได้นำมาทำการสอบสวน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวต่อว่า หลังการสอบสวนเบื้องต้น ชาวพม่าทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นคนขับเรือ 1 คน และอีก 3 คนเป็นลูกน้อง กล่าวว่า ได้ไปรับไม้จากฝั่งประเทศพม่าที่อยู่ตรงข้ามกับ อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นได้ขับเรือมาตามแนวลำน้ำกระบุรี มีการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อผ่านทางจนมาถูกจับ ซึ่งการขนไม้ 2 เดือน จะขึ้นมา 1 ครั้ง เพื่อมาส่งที่โรงเลื่อยในตัวเมืองระนอง โดยมีเจ้าของโรงเลื่อยเป็นผู้ติดต่อสั่งกับชาวพม่า ส่วนคนขับเรือ และลูกน้องได้ค่าจ้างคนละ 1,500 บาท จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากรจังหวัดระนอง ร่วมตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในเรื่อง พ.ร.บ.ศุลกากร ส่วนไม้นั้นไม่ว่าเป็นของใครจากคำกล่าวอ้างของชาวพม่า จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยทำงานอย่างเต็มที่ไม่ต้องกลัวอิทธิพลใดๆ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาล และคณะ คสช.ที่ต้องการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ (11 ต.ค.) นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เข้าตรวจสอบการจับกุมไม้ท่อนเถื่อนจำนวนมากที่บริเวณ ม.4 ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง หลังได้รับรายงานจาก ร.ต.นิติธร จันทร์แก้ว หัวหน้าชุดกองร้อยรักษาความสงบ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 25 และนางพิชชาภา ภาสะเตมีย์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 พร้อมกำลังชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน อส. โดยได้ทั้งไม้ของกลาง และผู้กระทำผิดชาวพม่า จำนวน 4 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากทางทหาร และฝ่ายปกครองทราบข่าวว่า จะมีการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศ โดยใช้เส้นทางลำน้ำกระบุรี เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ เมื่อทราบข้อมูลจึงได้จัดกำลังผสมนั่งเรือออกลาดตระเวนตรวจสอบตลอดแนวแม่น้ำที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทาง โดยใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหา พบเรือต้องสงสัยมีชาวพม่า อยู่บนเรือ 4 คน จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบ พบไม้ท่อนขนาดใหญ่หลายขนาด และหลากหลายชนิดเต็มลำเรือจำนวนมากกว่า 100 ท่อน จึงได้ขอตรวจหนังสือการอนุญาตนำไม้เข้า แต่ไม่มีหนังสืออนุญาตจึงได้นำมาทำการสอบสวน
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวต่อว่า หลังการสอบสวนเบื้องต้น ชาวพม่าทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นคนขับเรือ 1 คน และอีก 3 คนเป็นลูกน้อง กล่าวว่า ได้ไปรับไม้จากฝั่งประเทศพม่าที่อยู่ตรงข้ามกับ อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นได้ขับเรือมาตามแนวลำน้ำกระบุรี มีการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหน้าที่เพื่อผ่านทางจนมาถูกจับ ซึ่งการขนไม้ 2 เดือน จะขึ้นมา 1 ครั้ง เพื่อมาส่งที่โรงเลื่อยในตัวเมืองระนอง โดยมีเจ้าของโรงเลื่อยเป็นผู้ติดต่อสั่งกับชาวพม่า ส่วนคนขับเรือ และลูกน้องได้ค่าจ้างคนละ 1,500 บาท จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากรจังหวัดระนอง ร่วมตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในเรื่อง พ.ร.บ.ศุลกากร ส่วนไม้นั้นไม่ว่าเป็นของใครจากคำกล่าวอ้างของชาวพม่า จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยทำงานอย่างเต็มที่ไม่ต้องกลัวอิทธิพลใดๆ อีกทั้งเรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาล และคณะ คสช.ที่ต้องการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย