สตูล - ศูนย์ปีโป้สตูล เปิดปฏิบัติการ “เปิดเรือนเยือนศูนย์ฯ” เชิญผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ร่วมปลดล็อกใบเหลือง EU ด้านการประมงของประเทศ
วันนี้ (10 ต.ค.) ร.อ.จุมพล จินต์แสง รองหัวหน้าศูนย์ปีโป้ หรือศูนย์ผ่านเข้า-ออกเรือประมง เชิญตัวแทนผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์ใน จ.สตูล เข้าร่วมกิจกรรมเปิดปฏิบัติการเปิดเรือนเยือนศูนย์ฯ ที่ทำการประมงมีทั้งหมด 164 ลำ ซักซ้อมความเข้าใจการทำงาน และขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือประมงผ่านเข้า-ออก ในระบบ VMS ซึ่งวันนี้มีการประชุมทำความเข้าใจผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์พร้อมกันทั้ง 2 ศูนย์ คือ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือประมงผ่านเข้า-ออกตำมะลัง และปากบารา
นโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ IUU โดยได้มอบหมายให้กองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการกระทำประมงผิดกฎหมาย หรือ ศปมผ. โดยมีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้บัญชาการ โดยมอบหมายให้ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 (ศรชล.เขต 3) ทำหน้าที่ประสานการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน
ซึ่งได้เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่ 1 พ.ค.2558 เป็นต้นมา โดยมีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือประมงผ่านเข้าและออกพื้นที่จังหวัดต่างๆ หรือศูนย์ปีโป้ และจัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ศรชล.เขต 3 เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ และจับกุมเรือประมงที่กระทำผิดกฎหมายในพื้นที่
สำหรับการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ชาวประมงที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในภาพรวมเป็นไปด้วยดี ทำให้สามารถสร้างความเชื่อมั่น และน่าเชื่อถือจากนานาประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มเรือประมงบางส่วนที่ยังฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และแนวทางที่กำหนดอย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการได้รับใบเหลืองจากสหภาพยุโรปให้ได้ และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
การจัดปฏิบัติการ “เปิดเรือนเยือนศูนย์ฯ” ศรชล.เขต 3 ครั้งนี้ เพื่อให้ชาวประมง และสื่อมวลชนได้เข้าเยี่ยมชม และรับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย และความพร้อมของ ศรชล.เขต 3 และศูนย์ปีโป้ ในการเฝ้าติดตามเรือประมงที่ทำการประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ โดยเฉพาะการติดตามจากระบบติดตามเรือประมง VMS ที่เรือประมงพาณิชย์ ขนาด 30 ตันกรอสขึ้นไป จะต้องติดตั้งระบบดังกล่าว และเปิดสัญญาณตลอดเวลาเพื่อให้สามารถตรวจสอบตำแหน่ง และพื้นที่ทำประมงได้
ทั้งนี้ ปรากฏว่าในปัจจุบันยังคงตรวจพบว่า เรือบางลำมีการปิดสัญญาณโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ภาพที่ปรากฏแสดงจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ดังนั้น หากไม่มีเหตุผล และความจำเป็นจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 10/2558 เนื่องจากพบว่ายังคงปล่อยปละละเลย ไม่ร่วมมือร่วมใจกันดำเนินการตามมาตรการ และแนวทางที่กำหนดไว้ การประเมินผลจากเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปในครั้งต่อไปจะดำเนินการติดตามแก้ไขปัญหาการทำประมงของประเทศไทยในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2559 จะไม่สามารถปลดล็อกใบเหลืองได้
