ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุโรงผลิตกระเบื้องดินเผาแบบโบราณ หรือที่รู้จักกันในชื่อกระเบื้องเกาะยอ ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวใน จ.สงขลา และอายุเก่าแก่นับ 100 ปี สืบทอดมา 4 รุ่น พังถล่มลงมาทั้งหลัง หลังจากฝนตก และลมกระโชกแรง
วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุโรงผลิตกระเบื้องดินเผาแบบโบราณ หรือที่รู้จักกันในชื่อโรงกระเบื้องเกาะยอ ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 122 หมู่ 6 บ้านท่านางหอม ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีอายุเก่าแก่มากกว่า 100 ปี พังถล่มลงมาทั้งหลัง เนื่องจากเป็นโครงสร้างไม้เก่า และหลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาแบบโบราณ โดยตัวโรงเรือนกว้างประมาณ 6 เมตร ยาว 14 เมตร และสูงราว 7 เมตร
ส่วนสาเหตุเนื่องจากในระยะนี้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และมีลมกระโชกแรง ทำให้ตัวโรงกระเบื้องที่สร้างมานาน และเริ่มผุกร่อนพังถล่มลงมา แต่โชคยังดีที่โรงกระเบื้องพังถล่มลงมาในช่วงกลางคืนจึงไม่มีใครอยู่ในโรงกระเบื้อง และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ เตาเผาซึ่งสร้างมาพร้อมกัน และตั้งอยู่ติดกันไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โดยภายในเตาเผามีกระเบื้องที่เผาเสร็จแล้ว จำนวน 5 หมื่นแผ่น ที่รอนำไปใช้บูรณะย่านเมืองเก่าสงขลา
สำหรับโรงกระเบื้องดินเผาแบบโบราณแห่งนี้เหลืออยู่เพียงแห่งเดียว และเก่าแก่ที่สุดใน จ.สงขลา โดยปัจจุบัน มี น.ส.ละออ ทิพโอสถ อายุ 61 ปี เป็นผู้สืบทอดกิจการมาเป็นรุ่นที่ 4 ทั้งนี้ทางเจ้าของเตรียมที่จะบูรณะซ่อมแซมขึ้นมาใหม่อีกครั้งซึ่งคาดว่าต้องใช้งบประมาณกว่า 3 แสน5 หมื่นบาท และใช้เวลาประมาณ 1 เดือน แต่อาจใช้โครงสร้างเหล็ก และไม้เป็นหลัก ส่วนหลังคายังคงมุงด้วยกระเบื้องดินเผาเหมือนเดิม ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุทางมูลนิธิทักษิณคดีศึกษาได้เข้าไปสำรวจความเสียหาย และหาแนวทางช่วยเหลือแล้ว
สำหรับกระเบื้องดินเผาแบบโบราณ หรือกระเบื้องเกาะยอ ที่ผลิตจากโรงผลิตแห่งนี้ได้ถูกนำไปใช้ก่อสร้าง และบูรณะสิ่งก่อสร้างทั้งสมัยเก่า และสมัยใหม่ที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ล่าสุดถูกนำไปใช้ในสร้างเมืองโบราณในโครงการมัลลิกา ยุค ร.ศ.124 ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นช่วงที่ประกาศเลิกทาส และกระบวนการผลิตยังใช้รูปแบบโบราณที่สืบทอดกันมานับ 100 ปี โดยใช้เวลาเผา 1 เดือน แล้วนำออกมาตากลมอีก 25-30 วัน รวมระยะเวลาราว 2 เดือน จึงจะสามารถนำไปใช้ได้
