ยะลา - สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 นำนโยบายรัฐบาลบริหารจัดการเวลาเรียน “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติในโรงเรียนอย่างเป็นรูปธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา และเพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะของชีวิตด้วยจิตสำนึกของตัวเอง สามารถนำไปต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวันได้
วันนี้ (3 ต.ค.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 ได้จัดทีมสมาร์ตเทรนเนอร์ ผู้นำการนิเทศกิจกรรมในการขับเคลื่อนนโยบายระยะแรกจัดประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่สถานศึกษา ปรับโครงสร้างเวลาเรียนหลักสูตรสถานศึกษา การจัดตารางเรียน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน หมวดกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ 4 หมวด 16 กิจกรรม ประกอบด้วย หมวดที่ 1 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หมวดที่ 2 เสริมสร้างสมรรถนะการเรียนรู้ หมวดที่ 3 สร้างเสริมคุณลักษณะและค่านิยม หมวดที่ 4 เสริมสร้างทักษะการทำงาน การดำรงชีพ และทักษะชีวิต
นอกจากนี้ ในปี 2559 สพป.ยะลา เขต 3 ยังได้ขยายโครงการคัดเลือกโรงเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 มีโรงเรียนเป้าหมายเข้าร่วมจำนวน 9 โรงเรียน คือ โรงเรียนบ้านนาข่อย, โรงเรียนสังวาลวิท 5, โรงเรียนบ้านจาเราะซูซู, โรงเรียนบ้านตาเนาะแมเราะ, โรงเรียนบ้านอัยเยอร์เวง, โรงเรียนศรีท่าน้ำ, โรงเรียนบ้านเยาะ, โรงเรียนบ้านโต และโรงรียนบ้านจุโป ภายใต้การกำกับดูแลของทีมสมาร์ตเทรนเนอร์ และโรงเรียนแกนนำ
สำหรับผลการดำเนินงานทำให้ครูผู้สอนมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ที่เน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติ และเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น โดยนักเรียนได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพ และมีความสุขในการเรียนรู้อย่างแท้จริง ผ่านกระบวนการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย สอดคล้องต่อ 4H คือ โรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์), โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 94 (บ้านบ่อน้ำร้อน), โรงเรียนบ้านแหร และโรงเรียนบ้านธารน้ำใส
สพป.ยะลา เขต 3 มุ่งหวังว่านโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” จะเป็นกลยุทธ์ในการยกระดับและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ทั้งในพื้นที่ทุรกันดาร หรือพื้นที่ที่มีปัญหาเฉพาะ ตัวอย่างโรงเรียนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้อันประกอบด้วยนราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สตูล และสงขลา ซึ่งมีสถานศึกษาในพื้นที่เข้าร่วมเป็นโรงเรียนนำร่องพอสมควร
โดยที่ จ.ยะลา นายมนูญ จันทร์สุข ผอ.สพป.ยะลา เขต 3 กล่าวว่า ในสำนักงานเขตพื้นที่มีโรงเรียนนำร่องนโยบายลดเวลาเรียน 5 โรงเรียน ใน 2 อำเภอ คือ อ.เบตง และ อ.ธารโต ขณะที่โรงเรียนที่มีนักเรียนนับถือศาสนาอิสลามแบบเข้ม ก็มีการจัดกิจกรรมได้โดยไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด โดยที่นักเรียน และผู้ปกครองต่างพอใจ
ขณะที่ นายประสิทธิ์ อ้วนเส้ง ผอ.บ้านราโมง กล่าวว่า โรงเรียนได้จัดกิจกรรมที่หลากหลายควบคู่ไปกับคู่มือที่ สพป.จัดให้ ซึ่งเด็กๆ ต่างมีความสุข สนุกสนาน และได้ความรู้ ชื่นชอบการเรียนวิชาชีพ เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และได้ความรู้
ขณะที่ น.ส.นิรอฮานี ยามูสะนอ ผู้ปกครอง กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดีมาก อย่างน้อยเด็กในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้มีโอกาสที่ดีในเรื่องกีฬา เพื่อพัฒนาศักยภาพให้เด็กไปสู่วงการกีฬาของไทย และยังช่วยให้ห่างไกลยาเสพติดได้
และนี่คือสิ่งที่ สพป.ยะลา เขต 3 ได้พัฒนา และยกระดับให้นักเรียนได้เรียนรู้และนำชุมชนเข้ามาช่วยในการเรียนการสอน ซึ่งไม่เพียงเกิดประโยชน์เฉพาะโรงเรียน นักเรียน ชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบสนองนโยบายของภาครัฐที่ต้องการเห็นเยาวชนได้เรียนรู้ทักษะของชีวิตด้วยจิตสำนึกของตัวเอง และสามารถนำไปต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง
