ยะลา - นักวิชาการ ผู้นำชุมชนยะลา ผู้นำศาสนา ขานรับนโยบาย “ครม.-รัฐบาลส่วนหน้า” แก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ แนะขอคนเข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ และให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมแก้ปัญหา
วันนี้ (14 ก.ย.) ผศ.ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดี ม.ราชภัฏยะลา เปิดเผยถึงกรณีรัฐบาลมีแนวความคิดในการตั้งรัฐบาลส่วนหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ถือเป็นแนวคิดที่เหมาะสม เพราะปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาที่เรื้อรังมาพอสมควร ที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงแนวนโยบายบ่อยมาก ความไม่ต่อเนื่องของนโยบายทำให้วิธีการ การทำงาน ทำให้ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเป็นระบบ รวมทั้งการที่ไม่มีคนที่รับผิดชอบโดยตรง การบูรณาการการทำงานต่างๆ ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพ
ฉะนั้น ตนเองเห็นด้วยให้มีรัฐบาลส่วนหน้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก และอยากเห็นว่า คนที่จะมาอยู่ที่นี่จะต้องรู้เรื่องราวของพื้นที่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มีบุคคลของพื้นที่เป็นตัวแทนด้วย จะได้เข้าใจปัญหาอย่างถ่องแท้ ไม่อยากให้คนที่มารับทราบเพียงการรายงาน อยากให้ลงไปดูในเชิงลึกด้วยถึงปัญหาที่แท้จริง อยากฝากทางรัฐบาลให้ส่งคนที่ใช่ลงมาทำงาน ซึ่งพี่น้องประชาชนคาดหวังกับสิ่งเหล่านี้
“รัฐบาลส่วนหน้าเป็นความคิดที่ดีมาก สำหรับคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่อยากเห็นมานาน ซึ่งในรัฐบาลที่ผ่านมา ก็มีแนวความคิดเช่นนี้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากว่าบุคคลที่มาอยู่ในพื้นที่เข้าใจปัญหาจากรายงาน ไม่ได้เข้าใจจิตวิญญาณของปัญหา เพราะฉะนั้นถ้าครั้งนี้ได้คนที่เข้าใจปัญหาแต่ไม่เข้าใจจิตวิญญาณของปัญหาก็จะกลับไปเหมือนเดิม ต้องเอาคนที่เข้าใจปัญหาที่เหมาะสม โดยเฉพาะคนในพื้นที่มารับผิดชอบทำงานตรงนี้” อธิการบดี ม.ราชภัฏยะลา กล่าว
ด้าน นายรักชาติ สุวรรณ ประธานชุมชนคูหามุข จ.ยะลา เปิดเผยว่า หากตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ข้อสังเกตคือว่าที่ผ่านมาก็เคยมีแบบนี้มาแล้ว เพียงแต่ว่าครั้งนั้นคนที่แต่งตั้งมาลงพื้นที่นานๆ ครั้ง หรือเดือนละครั้ง ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่ครั้งนี้หากแต่งตั้งแล้วลงมาอยู่ในพื้นที่ ลงมาสัมผัสพื้นที่จริงๆ ก็น่าจะมีส่วนในการช่วยเหลือคนในพื้นที่ได้จริงๆ หลายประเด็นคนในพื้นที่ต้องการสื่อสารโดยตรง อยากแจ้งทางรัฐบาลโดยตรง แต่ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ หากทำให้ชาวบ้านสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี
“ที่ผ่านมาปัญหาของชาวบ้านเมื่อนำไปคุยกับหน่วยงานในพื้นที่มักจะเงียบหายไป แต่ช่วงระยะหลังที่เป็นรัฐบาลทหาร ชาวบ้านก็จะประสาน กอ.รมน.โดยตรง ก็ได้รับการแก้ไขได้บางส่วน แต่บางเรื่องก็ยังต้องรอผู้ใหญ่ในส่วนกลาง ถ้ามีรัฐบาลส่วนหน้าลงมาในพื้นที่จริง ก็เชื่อว่าน่าจะช่วยแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านได้ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการตั้งคณะรัฐมนตรี รัฐบาลส่วนหน้า ลงพื้นที่ ก็อยากให้ผู้ใหญ่ที่ลงมาดูแลพบปะกับกลุ่มประชาชนให้ครบทุกเชื้อชาติ ศาสนา ไม่สนับสนุนเฉพาะกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด เพราะที่ผ่านมา มีปัญหาด้านความรู้สึกกันมาก ส่วนความคาดหวังในแนวนโยบายนี้ถ้าลงมาทำงานจริงๆ ลงมาแก้ไข มาอยู่กับชาวบ้านจริงๆ ก็เป็นสิ่งที่เราคาดหวังมาก และเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าลงมาแล้วไม่ได้ลงมาสัมผัสกับชาวบ้านก็จะไม่มีประโยชน์” นายรักชาติ กล่าว
ทางด้าน นายนิมุ มะกาเจ ผู้นำศาสนาและผู้ทรงคุณวุฒิประจำจังหวัดยะลา กล่าว่า การจะจัดตั้งรัฐบาลส่วนหน้า หรือ ครม.ส่วนหน้านั้น ก็คือ คปต.นั้น จะมีการแต่งตั้งบุคคลขึ้นมาเป็นคณะเพื่อมาทำงาน ซึ่งบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นก็จะต้องเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์การทำงานในพื้นที่จริงๆ และคงจะต้องมีการร้องขอไปยังรัฐบาลให้สรรหาคณะบุคคลที่ต้องเข้าถึง เข้าใจ และมีเครือข่ายการทำงานในพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งหากมีการรับข้อมูลการแก้ไขปัญหาจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียวก็คงมีการนำเสนอแต่สิ่งดีๆ เพราะฉะนั้นคณะทำงานที่จะแต่งตั้ง จะต้องเป็นบุคคลที่เข้าใจปัญหาจริงๆ และชาวบ้านสามารถนำเสนอข้อมูลได้ เข้าถึงได้สะดวก
นายนิมุ มะกาเจ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการต่อเนื่องในรัฐบาลต่อๆ ไปนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และเห็นด้วยอย่างยิ่ง แม้ว่าการจัดตั้งรัฐบาลส่วนหน้าจะเป็นเพียงแนวนโยบายย่อยๆ แต่หากอำนาจในการบริหารจัดการ และทำงานได้จนสำเร็จในพื้นที่ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก