“ประวิตร” หารือ กสม. ยันเชิญบุคคลเข้าค่ายทหารไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำตามแบบประชาธิปไตยทุกอย่าง รับกำลังพิจารณาตั้ง ครม.ส่วนหน้าดับไฟใต้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ว่า กสม.มีความเป็นห่วงประเด็นสิทธิมนุษยชนในเรื่องการเชิญบุคคลเข้ามาให้ข้อมูลในค่ายทหาร 7 วัน และเกรงว่าทางรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไปละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งตนขอย้ำว่าไม่ได้ละเมิดแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการทราบข้อมูลว่าการที่คิดเห็นแตกต่างนั้นเป็นเพราะอะไรเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนได้ชี้แจงให้ กสม.เข้าใจไปหมดแล้ว
“ยืนยันว่ารัฐบาล และ คสช.ทำแบบประชาธิปไตยทุกอย่าง เพียงแค่เรามีมาตรา 44 ไว้สำหรับแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการป่วนบ้านป่วนเมือง เรื่องคนไม่ดี เพื่อสามารถทำให้รัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงมาก ขอให้เป็นห่วงตัวเองกันบ้าง”
ด้านนางอังคณา นีละไพจิตร กสม.กล่าวว่า ทาง กสม.ได้เสนอข้อสังเกตฝากไปยังรัฐบาลในเรื่องการควบคุมตัวว่าควรจะระบุสถานที่ให้ชัดเจน และเปิดโอกาสให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ หรือหากไม่ได้ กสม.ขอเป็นตัวแทนในการเข้าเยี่ยม ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตรก็พร้อมที่จะนำข้อเสนอนี้ไปหารือในที่ประชุมของรัฐบาลต่อไป
พล.อ.ประวิตรยังกล่าวถึงข้อเสนอให้มีการตั้งคณะรัฐมนตรีส่วนหน้าการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ว่า ตอนนี้จะทำให้รวดเร็ว โดยมีประมาณ 10 คน อยู่ระหว่างการทำโครงสร้าง และคนที่จะมาดำรงตำแหน่งจะไม่ใช่ข้าราชการ แต่เป็นคนที่รัฐบาลส่งไป
พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซียในวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ว่าตนจะไปพูดคุยหลายประเด็น ทั้งเรื่องรั้วชายแดน เรื่องคนสองสัญชาติ รวมทั้งเรื่องความมั่นคงทางชายแดน โดยเดินทางไปเยือนในครั้งนี้จะไม่มีการหารือเกี่ยวกับการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะได้มอบหมายให้ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพุดคุยสันติสุขเป็นผู้ดำเนินการ