ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ที่ปรึกษาสบ 10 ระบุรู้ตัวแล้ว 1 ราย ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุแฮกข้อมูลฉกเงินจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ภูเก็ต กรุงเทพฯ เพชรบุรี ก่อเหตุมากถึง 13 ครั้ง ระหว่าง 14 - 31 ก.ค.ได้เงินไปกว่า 3 ล้านบาท พบข้อมูลเดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา สบ 10 (สัญญาบัตร 10) พร้อมคณะชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตร.ท่องเที่ยว ประกอบด้วย พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.อาคม สายสมัย รอง ผบก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.ษณกร มั่นเมือง ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.8 พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รอง ผกก.สส.อ่าวนาง ช่วยราชการ รอง ผกก.สส.ภ.8 พ.ต.ท.บัณฑิต ขาวสุธรรม รอง ผกก.5 บก.ทท. พ.ต.ต.นฤวัต พุทธวิโร สว.ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุแฮกข้อมูล และฉกเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสินในหลายพื้นที่ รวมทั้งจังหวัดภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี
พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พังงา และภูเก็ต เพื่อตรวจสอบตู้เอทีเอ็มที่ถูกคนร้ายก่อเหตุโจรกรรมเงินสดออกไป และเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี รวมทั้งประชุมคระทำงานชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะการติดตามหาข้อมูลเกี่ยวกับการเช่ารถของกลุ่มคนร้ายที่มีการเช่ารถจำนวนหลายคันในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และนำไปก่อเหตุตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วคดีนี้ทางตำรวจภูธรภาค 8 ได้ดำเนินการตรวจสอบ และสืบสวนมาระยะหนึ่งแล้วหลังจากได้รับแจ้งข้อมูลจากทางธนาคารออมสิน ในเบื้องต้น คาดว่าจะมีผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 3 กลุ่มที่ออกปฏิบัติการตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน และเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการ 3-7 คน
ซึ่งจากการสืบสวน และร่วมกันทำงานของทุกฝ่ายทำให้ขณะนี้มีความชัดเจนเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุกดเงินในพื้นที่ จ.ภูเก็จ กรุงเทพฯ และเพชรบุรี แล้วจำนวน 1 ราย เชื่อว่าจากพยานหลักฐานที่มีสามารถนำไปสู่การออกหายจับได้ ซึ่งเป็นชายชาวรัสเซีย พบมีพฤติกรรมกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มต่างๆ จำนวน 13 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 3 ล้านกว่าบาท แต่ขณะนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ทราบชื่อคือ นาย RUSTAM SHAMBASOV อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนเชื่อว่า สามารถนำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน โดยทางเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบรถที่คนร้ายเช่ามาเพื่อใช้ในการกระทำความผิดแล้ว จำนวน 1 คัน จากทั้งหมดที่มีการตรวจพบ 3 คน คือ รถฟอร์จูนเนอร์ ที่เช่าจากร้านในบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ พบขอ้มูลชายชาวตางชาติได้ติดต่อเช่ารถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ฟอรจูนเนอร์ สีขาว ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ในขณะที่คนร้ายขับไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ระหว่างวันที่ 27-28 ก.ค.59 โดยตระเวนกดเงินในพื้นที่ จ.ภูเก็ตหลายจุดด้วยกัน
สำหรับการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเริ่มเดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยสายการบินแอร์ไชน่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ต้นทางสนามบินปักกิ่ง และถึงสนามบินภูเก็ต เวลา 00.40 น.วันที่ 14 ก.ค. หลังจากนั้น ผู้ต้องสงสัยได้ลงมือกดเงินตู้เอทีเอ็มทันทีในวันที่ 15 ก.ค.เวลา 14.27-14.28 น. จุดนี้ได้เงินไป 280,000 บาท ต่อมา วันที่ 16 ก.ค. ผู้ต้องสงสัยได้เดินทางไปที่ตู้เอทีเอ็มหน้าร้านไสยวน คลินิก ลงมือกดเงินในเวาล 20.44-20.46 น. ได้เงินไป 80,000 บาท วันที่ 17 ก.ค. เดินทางออกจากสนามบินภูเก็ต ไปลงดอนเมืองในเวลา 00.15 น. วันที่ 18 ก.ค. และเริ่มตระเวนกดเงินในวันที่ 21 ก.ค.เวลา 05.50-05.57 น. ที่บ้านขนมนันทวัน จ.เพชรบุรี ได้เงินไป 1,160,000 บาท วันที่ 25 ก.ค.เวลา 13.30 น เช่ารถที่ร้าน P&D TOUR ไสยวน ต.ราไวย์ เป็นรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กศ 7460 กรุงเทพ
วันที่ 26 ก.ค. ผู้ต้องสงสัยเริ่มกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าไสยวนคลินิก เวลา 23.27-23.28 ได้เงินไป 80,000 บาท วันที่ 27 ก.ค. เวลา 14.53-14.54 น. กดเงินที่ตู้หน้าร้านเรือนฟ้าเภสัช ได้เงิน 120,000 บาท วันที่ 27 ก.ค.เวลา 16.03 -16.04 น. กดเงินที่ตู้หน้าสำนักงานขนส่ง ได้เงินไป 280,000 บาท วันที่ 27 ก.ค. เวลา 23.16-23.20 กดเงินที่ J&P ซุปเปอร์มาร์ท ได้เงินไป 240,000 บาท วันที่ 27 ก.ค. เวลา 23.29-23.39 น. กดเงินที่ร้านเรือนพร เภสัช ได้เงินไป 120,000 บาท วันที่ 28 ก.ค. เวลา 00.18-00.20 น. กดเงินที่หน้า สนง.ขนส่ง ได้เงิน 280,000 บาท วันที่ 28 ก.ค.เวลา 01.04-01.05 น. ได้เงิน 80,000 บาท วันที่ 28 ก.ค. เวลา 21.35 น.เดินทางออกจากสนามบินภูเก็ตไปดอนเมือง วันที่ 29 ก.ค. เวลา 03.41-03.43 น.กดเงินที่แฟมมิลี่มาร์ท สุขุมวิท 71 ได้เงินไป 240,000 บาท วันที่ 29 ก.ค.เวลา 03.56-03.59 กดเงินที่ 7-11 สุขุมวิท ได้เงินไป 120,000 บาท วันที่ 31 ก.ค.เวลา 02.16-02.18 น. กดเงินที่แฟมิลี่มาร์ท สุขุมวิท ได้เงินไป 240,000 บาท และออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ส.ค. จุดหมายปลายทางที่มอสโก
พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมาทำให้ทราบข้อมูลผู้ต้องสงสัยที่ชัดเจนแล้ว 1 ราย สิ่งที่ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการต่อคือ การสืบสวนหารถอีก 2 คน ที่คนร้ายนำไปใช้ในก่อเหตุ ซึ่งมั่นใจว่าเป็นรถที่เช่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต คือ รถเก๋งซีวิค และวีออส สีขาว หากได้ข้อมูลการเช่ารถทั้ง 2 คันมาก็จะทำให้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลของคนร้ายมากขึ้นอย่างแน่นอน