นราธิวาส - ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ตรวจสอบขยายเครือข่ายยาเสพติดสระบุรี บุกยึดทรัพย์สินกว่า 30 ล้านบาท พร้อมสั่งเข้มในการปราบปรามผู้ค้ายา และเครือข่ายยาเสพติดอย่างเฉียบขาด
วันนี้ (25 ส.ค.) พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ได้เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.สระบุรี จับกุมตัว 4 ผู้ต้องหา คือ นายคมสันต์ ขัตยะราช นางชลทิพย์ชา สุวิหาร นายกิติกร กิติธนะ และนายเกรียงไกร บุญเป็ง พร้อมยาบ้า 874,000 เม็ด และยาไอซ์ 10 กก. บริเวณปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท.ในพื้นที่ ต.หนองไข่ อ.หนองแค จ.สระบุรี ขณะซุกซ่อนมากับรถทัวร์ 2 ชั้น ของบริษัทโชคทรัพย์เจริญ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.59 ที่ผ่านมา โดย 1 ใน 4 ผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอดถึง นายเอกลักษณ์ อับดุลเลาะ ซึ่งเป็นเจ้าของรถทัวร์ 2 ชั้น ชื่อ เอกศิริ
ทั้งนี้ พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปราโมทย์ แก้วขาว หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จ.นราธิวาส สนธิกำลังกับ พ.ต.ต.อลัมต์ เมฆารัตน์ สารวัตรสืบสวนตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 4 จุด ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง และสามารถทำการตรวจยึดของกลางได้จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย รถบัสปรับอากาศ 5 คัน รถยนต์ 5 คัน รถไถนา 1 คัน รถ จยย.1 คัน โฉนดที่ดิน 2 แปลง สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ 17 เล่ม อาวุธปืนพกขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท โดยขณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นเป้าหมาย พบว่า นายเอกลักษณ์ อับดุลเลาะ ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านพัก และสถานที่สำหรับใช้ในการจอดรถทัวร์แต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ญาติได้รับทราบ เพื่อรอ นายเอกลักษณ์ อับดุลเลาะ มาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหลักฐานต่างๆ มาชี้แจงถึงที่มาที่ไปของทรัพย์สินทั้งหมด และหาก นายเอกลักษณ์ ไม่มารายงานตัวก็จำดำเนินการออกหมายจับต่อไป
สำหรับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จ.นราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่มีเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ จำเป็นต้องดำเนินไปตามขั้นตอนการปฏิบัติขยายผล ซึ่งยอมรับว่าในพื้นที่ จ.นราธิวาส ผู้ค้ายาเสพติดใช้เป็นพื้นที่ค้ายา พักยาเสพติด เนื่องจากมีพื้นที่ เขตแดนไปประเทศมาเลเซีย ทำให้เครือข่ายยาเสพติดใช้เป็นพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งจากนี้จะเพิ่มความเข้มข้นในเพื่อดำเนินการปฏิบัติ คือ การป้องปราม และเพิ่มความเข้มข้นในการปราบปรามผู้ค้ายา และเครือข่ายยาเสพติดอย่างเฉียบขาด
