สตูล - ตร.สภ.เมืองสตูล รวบทันควันโจรงัดกุฏิพระภายในวัดมงคลมิ่งเมือง หลังแกะรอยจากกล้องวงจรปิด พบประวัติเคยก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง และยังอยู่ระหว่างดำเนินคดี
วันนี้ (19 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายงัดกุฏิพระเลขาเจ้าคณะอำเภอเมือง ภายในวัดมงคลมิ่งเมือง หมู่ที่ 4 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2559 ที่ผ่านมา คนร้ายได้ขโมยเอาทรัพย์สินไป ประกอบด้วย ตู้เซฟ จำนวน 1 ตู้ ภายในมีเงินสด 14,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม มีดกริช จำนวน 1 ด้าม โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง และ เขี้ยวเสือยาวประมาณ 3 นิ้ว จำนวน 1 อัน หลังทางวัดเข้าแจ้งความ สภ.เมืองสตูล พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดส่งมอบให้ตำรวจดูตำหนิ และรูปพรรณสัณฐานแม้จะมีผ้าปิดหน้า
พ.ต.อ.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบก.ตร.ภ.จว.สตูล สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ นาวัง ผกก.สภ.เมืองสตูล พ.ต.ท.อนุชัย สวยงาม สว.สส. ร.ต.อ.กฤษณพงศ์ บัวงาม รองสว.สส. ร.ต.อ.สมคิด จิตเอียด ร.ต.ท.สหัส เยียมสาร ร.ต.ต.วิศิษฏ์ พรรณราย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เรียกประชุมวิเคราะห์เหตุการณ์ นำภาพวงจรปิดมาตรวจสอบ พบว่า คนร้ายน่าจะเป็น นายสมพงษ์ หรือโต๊ะบอ มนูญดาหวี อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 131 หมู่ที่ 2 ต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล ผู้ต้องหาเก่าซึ่งเคยก่อเหตุเกี่ยวกับทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง และยังอยู่ระหว่างดำเนินคดี (ประกันตัว) และจากการดูภาพวงจรปิดดังกล่าว ประกอบคำยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพยานระบุได้ชัดเจนว่าเป็น นายสมพงษ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตาม และทราบที่อยู่
ต่อมา ผกก.สภ.เมืองสตูลได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่บ้านพัก ขนำไม่มีเลขที่ ซอยชูใจ ม.4 ต.คลองขุด พบนายสมพงษ์ ก่อนเข้าจับกุม หลังการสอบถามได้ให้การยอมรับ และนำตรวจยึดของกลางตามรายการดังกล่าว ของกลางที่ตรวจยึดมาได้ปรพกอบด้วย ไขควง (ใช้งัดกุญแจ) 1 อัน มีดทำครัว (พกติดตัว) 1 ด้าม หมวกแก๊ปสีเทา 1 ใบ เสื้อยืดคอกลมสีดำลายสกรีน 1 ตัว กางเกงขาสามส่วน 1 ตัว ตู้เชฟ จำนวน 1 ตู้ มีดกริช จำนวน 1 ด้าม และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ลักทรัพย์เพื่อต้องการเงินมาใช้ และบางส่วนนำไปเสพยาเสพติด จึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร
พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ นาวัง ผกก.สภ.เมืองสตูล ยังคงเน้นย้ำแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยที่วัดอื่นๆ โดยทางตำรวจได้มีแนวทางพิทักษ์วัด มัสยิด และศาสนาสถาน ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 9 ให้ความห่วงใย โดยขอความร่วมมือไปทางมัสยิด และวัดในการดูแลตัวเอง ตรวจสอบบุคคลที่อยู่ พร้อมส่งประวัติเพื่อให้ทางตำรวจช่วยในการตรวจสอบ การตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อขึ้นบัญชี การปรับภูมิทัศน์ไม่ให้รกต่อการก่อเหตุ การติดตั้งกล้อง CCTV ซึ่งทางตำรวจเองก็จะเพิ่มความถี่ในการตรวจตรา ส่วนมาตรการเสริมจะมีการจัดทำโครงการชุมชนเข้มแข็ง เพื่อกดดันผู้ค้า ผู้เสพ และขอให้ทางวัด หรือมัสยิดที่มีการตั้งตู้รับบริจาคที่แน่นหนา มีคนดูแลรักษาป้องกันขโมยที่จะลักตู้บริจาคได้