ตรัง - ผลการตรวจสอบห้างลีมาร์ทฯ ที่ถูกเพลิงไหม้ใน เบื้องต้นคาดตัวอาคารยังพอซ่อมแซมใช้การต่อไปได้ พบมีการทำประกันภัยไว้ 13.5 ล้าน แต่ความเสียหายสูงถึง 50 ล้าน และยังสรุปสาเหตุไม่ได้
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสถานีรถไฟตรัง ตัวแทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายปกครอง โยธาธิการและผังเมือง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เทศบาลนครตรัง การรถไฟ พมจ.สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ตำรวจ และผู้ประกอบการห้างลีมาร์ทซุปเปอร์ค้าส่ง ได้ประชุมร่วมกันเพื่อหารือ และประเมินสถานการณ์ตัวอาคารห้าง ถึงแนวทางดำเนินการและแก้ไขปัญหาหลังจากถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง โดยใช้เวลานานกว่า 30 ชม. กว่าจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทั้งหมด ประกอบกับตัวอาคารดังกล่าวมีการก่อสร้างมานานเกือบ 40 ปี ปัจจุบันมีสภาพเก่า และเมื่อถูกไฟไหม้จึงมีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด
นายพงศ์ภวัน จิตรบรรเจิดกุล โยธาธิการและผังเมือง จ.ตรัง กล่าวว่า เท่าที่ประเมินด้วยสายตา สภาพอาคารขณะนี้ยังไม่มีปัญหา แต่การจะเข้าไปตรวจสอบต้องใส่ชุดป้องกันให้เรียบร้อย และพยายามเดินตามแนวคานของอาคาร เนื่องจากพื้นถูกไฟไหม้ และแตกละเอียด ส่วนเหล็กก็ถูกความร้อนจนมีการผิดรูป ฝ้าเพดานเสียหายเกือบทั้งหมด แม้คาน และเสาของอาคารยังอยู่ในสภาพใช้ได้อยู่ แต่หากไม่ใช้ความระมัดระวังก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงทำให้บริเวณดานฟ้ามีน้ำขังอยู่สูงประมาณ 30 ซม. และหนัก 300 กก. หรือประมาณ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร จนทำให้เป็นอุปสรรคในการที่จะเข้าไปสำรวจพอควร เพราะเกรงว่าอาจจะถล่มลงมาได้เนื่องจากรับน้ำหนักไม่ไหว ซึ่งขณะนี้ได้มีประสานกับ ปภ.ตรัง และเทศบาลนครตรัง ให้ทำการเจาะเอาน้ำที่ขังออกก่อนที่จะเข้าสำรวจความเสียหายได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานจะสามารถเข้าไปสำรวจได้ประมาณ 2-3 วันนี้
นายวิชัย อรุโณประโยชน์ เจ้าของสัญญาเช่าลีมาร์ทซุปเปอร์ค้าส่ง กล่าวว่า ตนมีการทำประกันภัยไว้ 3 ส่วน คือ ประกันภัยเฟอร์นิเจอร์ 2 ล้านบาท ตัวอาคาร 500,000 บาท และสต๊อกสินค้า 11 ล้านบาท แต่อาคารห้างที่ถูกไฟไหม้ครั้งนี้ประเมินความเสียหายเบื้องต้นคิดว่าไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และกำลังจะหมดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับการรถไฟในปีหน้านี้ ความจริงตั้งใจจะต่อสัญญาเพิ่ม แต่กลับมาถูกไฟไหม้เสียก่อนก็จำเป็นต้องยกเลิกสัญญาไปก่อนกำหนด ส่วนจะมีเงื่อนไขอย่างไรบ้างนั้นก็ต้องดูในตัวเอกสารอีกครั้งหนึ่ง สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ตนยังไม่ทราบ และไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเพราะอะไร ต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบก่อน
นายสมชาย รักษ์ไทย อายุ 49 ปี ตัวแทนผู้ประกอบการเช่าพื้นที่ภายในห้างลีมาร์ทฯ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้พวกตนที่เป็นผู้เช่าแผงทั้ง 32 ราย ยังมึนงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังคิดอะไรไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่สิ่งที่เป็นปัญหาเร่งด่วนขณะนี้คือ หลายคนมีภาระหนี้สินผ่อนชำระ บางคนผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งลูกเรียน เช่าบ้าน ฯลฯ โดยบางคนถึงงวดที่ต้องชำระภายใน 1-2 วันนี้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะเอาเงินที่ไหนไปจ่าย จึงอยากขอให้ทางการช่วยเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอผ่อนปรน หรือพักชำระหนี้ไปก่อนจนกว่าจะสามารถคลี่คลาย และมีสถานที่ประกอบอาชีพใหม่อีกครั้ง ซึ่งความเสียหายเฉพาะในส่วนของตนนั้นมีแผงขายเสื้อผ้าทั้งหมด 4 แผง แต่ถูกไฟไหม้ไปทั้งหมด มูลค่าประมาณ 1.7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการประชุมในครั้งนี้ ตัวแทนจากส่วนราชการจังหวัดตรัง ซึ่งมี นายธำรง เขมะรัตน์ ปลัดจังหวัดตรัง เป็นประธาน ก็ได้บอกให้กลุ่มผู้ค้าทำรายการความเสียหาย รวมถึงสรุปภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วส่งข้อมูลให้แก่ ปภ.ตรัง เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป พร้อมเน้นย้ำว่า ข้อมูลต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เพราะหากมีการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเท็จ จะทำให้การช่วยเหลือล่าช้าไปอีก พร้อมกันนี้ เบื้องต้น ปภ.ตรัง ได้มีการเสนอเรื่องขอรับเงินจากกรมฯ มามอบให้แก่ผู้ค้ารายละ 11,000 บาท เพื่อเป็นการเยียวยาในเบื้องต้น