ระนอง -พังงา - ผู้ว่าฯ ระนอง และพังงา เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคงด่วน กำชับให้ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด หลังเกตุการณ์ระเบิดป่วนเมืองในหลายพื้นที่ของภาคใต้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (12 ส.ค.) ที่ห้องประชุมโกมาซุม ศาลากลางจังหวัดระนอง นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เรียกกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดระนอง ผบ.ฉก.ร.25 ผู้บังคับการตำรวจ ฝ่ายปกครอง นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมด้านความมั่นคงประชุมด่วน เพื่อหารือในการวางมาตรการป้องกันแก้ไขมิให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย หลังจากที่เกิดเหตุความไม่สงบเรียบร้อยย่านชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่จังหวัดต่างๆ คือ จังหวัดตรัง สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต กระบี่ และประจวบคีรีขันธ์ ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา โดยกำชับให้ทุกฝ่ายเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชน สถานที่แหล่งท่องเที่ยว หรือพื้นที่จัดงานรื่นเริง/เครื่องเล่นต่างๆ/สถานีคมนาคมที่มีประชาชนจำนวนมากทั้งชาวไทย และต่างประเทศมาใช้บริการจำนวนมาก และให้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ พร้อมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กล้องโทรทัศน์วงจรปิด เครื่องดับเพลิง อุปกรณ์แสงส่องสว่างให้พร้อมใช้งานตลอดระยะเวลา โดยให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินทุกโรงพยาบาล เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันสอดส่อง พบเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาในชุมชน หรือพบเห็นวัตถุกล่องหีบห่อต้องสงสัยนำเข้ามาวางในแหล่งชุมชน พร้อมทั้งตรวจสอบอุปกรณ์กล้องวงจรปิดให้สามารถใช้การได้ เพราะหากเกิดเหตุความไม่สงบจะมีประโยชน์ต่อทางราชการอย่างมาก ทั้งนี้ หากเกิดเหตุผิดปกติสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือโทร.191 ได้ทันที
ที่จังหวัดพังงา นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้สั่งการให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น เฝ้าระวัง หลังเกิดเหตุความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในย่านชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่ภูเก็ต ตรัง อำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ และพังงา ซึ่งในหลายพื้นที่ได้เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา จึงได้เรียกฝ่ายความมั่นคงทุกส่วน เข้าหารือในการวางมาตรการป้องกันแก้ไขมิให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะให้ระมัดระวังพื้นที่ย่านชุมชน แหล่งท่องเที่ยว สถานบริการ รวมทั้งการลักลอบเผาทำลายสถานที่ราชการโดยวางมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลรักษาความปลอดภัย ประชาชน สถานที่แหล่งท่องเที่ยว หรือพื้นที่จัดงานรื่นเริง/เครื่องเล่นต่างๆ สถานีคมนาคมที่มีประชาชนจำนวนมากทั้งชาวไทย และต่างประเทศ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เตรียมเครื่องมืออุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย กล้องโทรทัศน์วงจรปิด เครื่องดับเพลิง อุปกรณ์ส่องสว่างให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา พร้อมแจ้งไปยังระดับอำเภอ ให้นายอำเภอเชิญประชุม คกก.รักษาความสงบเรียบร้อยอำเภอ เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ โดยให้ปลัดอำเภอผู้ประสานงานประจำตำบลเรียกประชุมผู้นำหมู่บ้าน คือ กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/สมาชิก อปท.ประจำหมู่บ้านมาประชุมกำหนดวิธีการรักษาความปลอดภัย และดูแลพื้นที่ในหมู่บ้านร่วมกับกำลังพลหน่วยงานรัฐด้วย
