ผู้ว่าฯ ระบุระเบิดที่ภูเก็ต ฝีมือขบวนการระดับประเทศเชื่อมโยงทุกจุดที่เกิดเช้าวันนี้

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เรียกประชุมด่วนสรุปสถานการณ์ระเบิดสองจุดที่ป่าตอง เป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็ก เผยเชื่อมโยงกับวัตถุต้องสงสัยที่พบเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา และเป็นฝีมือของกลุ่มเดียวกันกับระเบิดป่วนเมืองหลายจุดในภาคใต้เช้าวันนี้ที่ทำเป็นขบวนการในระดับประเทศ พร้อมสั่งทุกหน่วยเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยสูงสุดทั่วเกาะ เผยกล้อง CCTV จับบุคคลต้องสงสัยได้ 2 คน อยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด ส่วนกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในช่วงเย็นไม่ยกเลิก ส่วนการท่องเที่ยวอาจจะกระทบบ้างในระยะสั้นๆ ยันภูเก็ตปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (12 ส.ค.) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชุมด่วน ภายหลังเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 2 จุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ คือ ที่บริเวณสวนสาธารณะโลมา และตู้ควบคุมจราจรซอยบางลา หาดป่าตอง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน โดยมี นายขจรเกียรติ รักพาณิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นายอำเภอเมือง กะทู้ ถลาง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

นายจำเริญ แถลงต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่พบวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิด 2 จุด แต่โชคดีเป็นเพียงวัตถุที่ก่อให้เกิดประกายไฟเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามทำการสืบสวนถึงกลุ่มบุคคล และเป้าหมายของการนำวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวมาวางไว้ จนเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ได้เกิดระเบิด 2 จุด คือ ที่สวนสาธารณะโลมา กับตู้ควบคุมไฟจราจรซอยบางลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นผู้ขับรถมอเตอร์ไชค์รับจ้าง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณแขนจากสะเก็ดระเบิด เวลาห่างกัน 30 นาที และพบวัตถุต้องสงสัยที่หน้าโรงแรมแห่งบนถนนทวีวงศ์ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าระเบิดที่เกิดขึ้นในวันนี้ กับวัตถุต้องสงสัยที่พบในวันที่ 10 ส.ค.น่าจะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกัน และเป็นผู้ไม่หวังดีกลุ่มเดียวกันที่เข้ามาดำเนินการในพื้นที่ป่าตอง

“เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เหตุระเบิดทั้ง 2 จุด ที่หาดป่าตอง เป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความไม่สงบในพื้นที่ของกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีต่อประเทศ และได้มีการเตรียมการมาล่วงหน้า และเป็นกลุ่มบุคคล และขบวนการเดียวกันกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้หลายจุดในวันนี้ และเมื่อวาน แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มใด แต่เชื่อว่าเป็นขบวนระดับประเทศที่สามารถสร้างสถานการณ์ได้พร้อมๆ กันหลายพื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่” ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวและว่า

ระเบิดที่เกิดขึ้นทั้ง 2 จุดนั้น ทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กที่มีอานุภาพในการทำลายล้างไม่มากนัก รวมทั้งขณะนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดใกล้ๆ กับที่เกิดทั้งสองจุด CCTV สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน ซึ่งทางตำรวจกำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ และมีการแชร์กันในโลกโซเชียลบ้างแล้ว

นายจำเริญ ระบุอีกว่า ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง ตำรวจ ปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในระดับสูงสุด ตั้งแต่หัวเกาะที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย สนามบิน แหล่งท่องเที่ยว สถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า จุดที่มีการจัดกิจกรรม และมีคนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก และที่สำคัญอยากจะให้ประชาชนชาวภูเก็ตทุกๆ คน ช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลบุคคลแปลกหน้า หรือรถยนต์ต่างๆ ที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ในชุมชน หากพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่เป็นการด่วน เพื่อช่วยกันป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุร้ายในภูเก็ต เพื่อให้ภูเก็ตเป็นเมืองแห่งสันติสุข

ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการท่องเที่ยวนั้น ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ยืนยันว่า ภูเก็ตยังเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูง มีความพร้อมทั้งในเรื่องของมาตรการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และกำลังเจ้าหน้าที่ แต่เมื่อมีข่าวในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นย่อมที่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างแน่นอนในระยะสั้นๆ นี้ แต่ยืนยันว่า ภูเก็ตยังเป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับชีวิต และทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และเรียกร้องไปถึงผู้ที่ก่อเหตุอย่าทำร้ายเมืองภูเก็ต ส่วนกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในช่วงเย็นวันนี้ยังดำเนินการปกติ ทั้งที่บริเวณสนามชัย และเวทีกลางสะพานหิน รวมถึงการจัดกิจกรรมตามจุดต่างๆ เพียงแต่เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยเพิ่มขึ้นเท่านั้น