นครศรีธรรมราช - หลายฝ่ายยกกรณีคลิปกราบ นอภ.สิชลเป็น “สิชลโมเดล” จี้ตรวจสอบทุกโครงการในงบตำบลละ 5 ล้าน และโครงการประชารัฐ เชื่อพบ “ความไม่ปกติ” อีกจำนวนมาก ส่วนนายอำเภอ 2 คน เดินทางเข้ากรมการปกครองแล้ว หลังเจอเด้งฟ้าผ่า ขณะที่กิจกรรม “วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน” บรรยากาศค่อนข้างตึงเครียด ไร้เงาผู้ใหญ่บ้านที่ปรากฏในคลิปภาพดังกล่าว
วันนี้ (10 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครศรีธรรมราช บรรยากาศที่ว่าการอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นอย่างเงียบเหงา นายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอสิชล ได้เดินทางไปยังกรมการปกครอง เพื่อรายงานตัวต่ออธิบดีกรมการปกครอง ตามคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการ ภายหลังจากคลิปภาพของผู้ใหญ่บ้านก้มกราบนายอำเภอ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ในขณะที่มีการประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประจำเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ นายพิทักษ์ บริพิตร นายอำเภอชะอวด ได้ถูกคำสั่งย้ายเช่นเดียวกัน ซึ่ง นายพิทักษ์ เดิมนั้นดำรงตำแหน่งนายอำเภอสิชล และสลับกับ นายวชิระ เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา
โดยคำสั่งดังกล่าวนั้นได้ถูกส่งมายัง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ซึ่งคำสั่งแรกเป็นคำสั่งกรมการปกครอง ที่ 887/2559 ลงนามโดย ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต อธิบดีกรมการปกครอง สั่งให้ นายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอชะอวด ไปช่วยการกรมการปกครอง โดยมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ที่วิทยาการปกครอง กรมการปกครอง คำสั่งถัดมา คือ คำสั่งเลขที่ 888/2559 สั่งให้ นายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอสิชล ย้ายไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง โดยมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่กองการเจ้าหน้าที่ กรมการปกครอง
ส่วนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้เข้าร่วมกิจกรรม “วันกำนันผู้ใหญ่บ้าน” แต่ไม่ปรากฏตัว นายสัมพันธ์ คนดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.เขาน้อย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในกิจกรรมดังกล่าว เนื่องจากอยู่ในสภาพเครียดกับข่าวที่ปรากฏ จึงทำให้บรรยากาศของการทำบุญในวันนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา และหลายคนค่อนข้างระวังคำพูดกับผู้สื่อข่าว
อย่างไรก็ตาม ข้าราชการรายหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ดีที่เรื่องนี้ปรากฏขึ้น ซึ่งสามารถทำให้สังคมตื่นตัว และถามถึงความโปร่งใส อยากให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่เหนือไปกว่าระดับจังหวัด เข้าตรวจสอบในหลายๆ โครงการ ในหลายอำเภอของ จ.นครศรีธรรมราช นับตั้งแต่โครงการตำบลละ 5 ล้านบาท มาจนถึงโครงการประชารัฐ โดยเฉพาะใน อ.ทุ่งใหญ่ ถ้ำพรรณรา ชะอวด ปากพนัง หัวไทร และ อ.ร่อนพิบูลย์ เป็นกลุ่มอำเภอที่น่าสนใจมากในการใช้จ่ายงบประมาณ และมีประเด็นที่น่าที่จะต้องตรวจสอบ เช่น โครงการจัดซื้อลูกไก่ ที่เมื่อรวมกันในหลายอำเภอแล้วมีวงเงินนับสิบล้านบาท เป็นต้น
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาในพื้นที่เพื่อติดตามข้อมูลโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะโครงการตำบลละ 5 ล้าน และโครงการประชารัฐ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตหลายโครงการ โดยเมื่อปรากฏเป็นข่าวขึ้นทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงต่างจับตามอง และเร่งตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ การย้ายนายอำเภอทั้ง 2 คน มีขึ้นหลังจากมีคลิปภาพในที่ประชุมประจำเดือนกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งก้มกราบในที่ประชุม ขอร้องให้นายอำเภอหยุดสั่งให้พวกตนไปเรียกเก็บเงินหัวคิวตามโครงการประชารัฐของรัฐบาล ด้วยสูตรลับ 8-10-15 ไปจนถึงสูตร 25-30-35 ซึ่งทำให้พวกตนอับอายและเสียชื่อเสียง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 5 วัน นับแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยรับหน้าที่เป็นประธานหากการตรวจสอบพบมูลความผิดจะได้นำเรียน ผู้บังคับบัญชาดำเนินการต่อไป
ส่วนนายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอสิชล กล่าวก่อนได้รับคำสั่งย้ายว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา คนที่พูดในคลิปเรื่องสูตรเรียกเก็บเงินคือนายสัมพันธ์ คนดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลเขาน้อย อำเภอสิชล แต่ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิดและไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นแน่นอน