ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุแย่งศพของน้องพีพี หรือ ด.ช.เดชา เสมสัน อายุ 1 ขวบ 5 เดือน ที่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายเสียชีวิตเนื่องจากญาติฝ่ายพ่อแท้ๆ ต้องการนำศพไปฝังตามหลักศาสนาอิสลาม แต่ฝ่ายแม่ต้องการเผา สุดท้ายตำรวจต้องเข้าเคลียร์ และให้แม่เป็นคนตัดสินใจสุดท้ายจบที่การเผา
วันนี้ (28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น้องพีพี หรือ ด.ช.เดชา เสมสัน อายุ 1 ขวบ 5 เดือน ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกายด้วยการต่อย และกระทืบจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา และขณะนี้ศพตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดเกาะเสือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจะมีการทำพิธีฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (28 ก.ค.)
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็น วานนี้ (27 ก.ค.) ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในงานศพของ น้องพีพี เนื่องจากได้มีญาติกลุ่มหนึ่งเดินทางมาที่วัดเพื่อต้องการนำศพของ น้องพีพี กลับไปทำพิธีฝังตามหลักการศาสนาอิสลามโดยให้เหตุผลว่า น้องพีพี มีเชื้อสายอิสลาม เนื่องจากพ่อแท้ๆ ของน้องพีพีเป็นอิสลาม และแม่ของ น้องพีพี ก็เป็นอิสลามด้วย
แต่ฝ่าย น.ส.รอกีเยาะ ดือราแม แม่ของ น้องพีพี รวมทั้งเพื่อนบ้าน และเด็กนักเรียนที่มาช่วยเหลือเรื่องงานศพของน้องพีพี ตั้งแต่แรกไม่ยอม ต้องการทำพิธีศพแบบศาสนาพุทธโดยการเผา จนเกิดปัญหาโต้เถียงกันวุ่นวายเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอม จนหวิดปะทะเนื่องจากต่างฝ่ายต่างต้องการนำศพของ น้องพีพี ไปทำพิธีตามหลักศาสนาของตัวเอง และเถียงกันยืดเยื้อนานกว่า 1 ชั่วโมง จนเรื่องร้อนถึงตำรวจต้องเข้ามาเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น
ต่อมา ร.ต.อ.เสรี โชคผ่อง พนง.สภ.หาดใหญ่ ได้เดินทางมาที่วัดเพื่อระงับเหตุที่เกิดขึ้น ก่อนชี้แจ้งทำความเข้าใจต่อญาติทั้งสองฝ่ายให้ยุติเหตุวุ่นวายกลางงานศพของ น้องพีพี เพื่อให้เด็กได้ไปสู่สุคติอย่างสงบสุข โดยให้สิทธิขาดที่ น.ส.รอกีเยาะ ดือราแม แม่ของเด็กเพียงผู้เดียว เนื่องจากเป็นมารดาของเด็ก มีสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมาย ในที่สุดก็ตกลงกันได้ด้วยดีและไม่มีเหตุรุนแรง โดย น.ส.รอกีเยาะ ยืนยันจะทำพิธีเผาศพ น้องพีพี เพราะที่ผ่านมา แม้น้องพีพี จะมีเชื้อสายอิสลามแต่ปัจจุบันหันมานับถือศาสนาพุทธ เหตุการณ์จึงยุติลง