ตรัง - ห่วงท่าเทียบเรือท่องเที่ยวปากเมง จ.ตรัง หลังถูกคลื่นลมแรงพัดจนพัง แต่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ขณะที่อุทยานหาดเจ้าไหมแจงกำลังวิ่งหางบแล้ว พร้อมย้ำขณะนี้ต้องปิดชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
วันนี้ (25 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวปากเมง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของ จ.ตรัง ซึ่งได้ถูกคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำเมื่อหลายเดือนที่แล้ว จนส่งผลให้บันไดขึ้นลงท่าเทียบเรือชำรุดหล่นลง ส่วนเสา และคานที่ท่าเทียบเรือก็เกิดรอยร้าว ดังนั้น น.ท.รัชตะ ผกาฟุ้ง ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง จึงได้ลงนามประกาศสั่งปิดท่าเทียบเรือท่องเที่ยวหาดปากเมง และสั่งห้ามใช้อย่างเด็ดขาด จนกว่าจะมีการปรับปรุงซ่อมแซมแล้วเสร็จ ทำให้ขณะนี้นักท่องเที่ยวต้องนั่งเรือเล็กแล้วไปขึ้นเรือใหญ่อีกต่อหนึ่ง เพื่อเดินทางสู่การท่องเที่ยวต่างๆ ในท้องทะเลตรัง ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก
นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวว่า ผลจากการที่คลื่นได้ซัดบันได และเสาท่าเทียบเรือท่องเที่ยวปากเมงจนพัง มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทะเลตรังเป็นอย่างมาก เพราะนักท่องเที่ยวต้องเดินลุยน้ำทะเลเพื่อไปขึ้นเรือเล็ก แล้วต่อที่เรือใหญ่ ซึ่งบางครั้งนักท่องเที่ยวต้องยกเลิกการเดินทาง โดยอ้างถึงความปลอดภัย อีกทั้งท่าเรือที่ชำรุดก็ไม่ทราบว่าจะได้ซ่อมเมื่อใด เพราะต่างฝ่ายต่างอ้างว่าต้องรองบประมาณ แต่การท่องเที่ยวทะเลตรัง จะเปิดฤดูกาลใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2559 หรือในอีก 2 เดือนข้างหน้าแล้ว จึงเห็นว่าหากรองบประมาณในการซ่อมแซมท่าเทียบเรือ คงจะไม่ทันเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ด้าน นายมาโนช วงศ์สุรีรัตน์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า จากกรณีของท่าเทียบเรือท่องเที่ยวปากเมง ที่ชำรุดนั้น ทางอุทยานได้ประสานงานกับกรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง เพื่อจัดส่งวิศวกรเข้ามาตรวจสอบแล้ว และเห็นว่าจำเป็นจะต้องหยุดการใช้งานไปก่อนจนกว่าจะมีการซ่อมแซม ซึ่งต้องรองบประมาณ 1,940,000 บาท และได้เสนอแบบแปลนไปให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง รับทราบแล้ว ขณะเดียวกัน ก็ได้ประสานขออนุมัติเร่งด่วนไปทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพราะเห็นว่ารายได้ที่เก็บจากนักท่องเที่ยวแล้วส่งเข้าไปในส่วนกลาง ก็น่าจะนำมาใช้ในการเร่งจัดการซ่อมแซมท่าเทียบเรือดังกล่าวได้
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม คาดว่าภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้ อาจจะทราบผลว่าได้แหล่งเงินทุนจากทางไหน เพื่อนำเข้าสู่ระบบกระบวนการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วนต่อไป พร้อมทั้งได้เข้าไปทำความเข้าใจต่อผู้ประกอบการ และชาวบ้านในเรื่องผลกระทบด้านความเชื่อมั่นในด้านการท่องเที่ยว ที่หลายๆ ฝ่ายตั้งข้อสังเกต เนื่องจากกรมโยธาธิการและผังเมือง ระบุว่า ขณะนี้บริเวณปลายสะพานท่าเทียบเรือมีความแข็งแรงทางวิศวกรรมเป็นศูนย์ เพราะฉะนั้น จึงมีโอกาสทรุดลงเมื่อไหร่ก็ได้ จึงจำเป็นต้องประกาศปิดการใช้งานชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย เพราะถ้าเกิดมีความเสียหายขึ้นมาแล้วชื่อเสียงการท่องเที่ยวของ จ.ตรัง จะด้อยลงไปในที่สุด