กระบี่ - เตรียมเดินสำรวจรังวัดแนวเขตพื้นที่ นสล.เนื้อที่ 400 ไร่ หลังรอง นายก เกาะลันตาใหญ่ ผู้ต้องหาเรียกรับสินบน 20 ล้าน มีการลักลอบออกโฉนดในพื้นที่โดยไม่ชอบ เชื่อมีการพัวพันหลายคน
จากกรณีที่ นายอนุสรณ์ หวังผล อายุ 49 ปี อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมในคดีเรียกรับสินบนจากผู้บริหารบริษัทเอกชนเป็นเงิน 20 ล้านบาท เพื่อแลกต่อการรังวัดพื้นที่ให้ออกนอกเขตที่สาธารณประโยชน์ จำนวน 2 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 50 ไร่ พื้นที่หมู่ 5 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา เพื่อแลกกับการชี้แนวเขตที่ดินให้อยู่นอกเขตที่สาธารณะ จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่เศษ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ก.ค.59 ที่ผ่านมา
โดยในเบื้องต้น นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้มีคำสั่งให้ นายอนุสรณ์ หวังผล รองนายก อบต.เกาะลันตาใหญ่ พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว และได้สั่งการให้ทางที่ดินจังหวัดกระบี่ ตรวจสอบที่ดินในพื้นที่ ต.เกาะลันตาใหญ่ ที่เกี่ยวข้องต่อ อบต.จำนวน 6 แปลง ว่า ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ความคืบหน้าวันนี้ (20 ก.ค.) พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ บุญแก้ว รักษาราชการแทน ผกก.สภ.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ศาลจังหวัดกระบี่ ได้รับตัวผู้ต้องหาจากพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง ทางทนายความของ นายอนุสรณ์ ก็ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 5 แสนบาท ในชั้นศาลเพื่อขอประกันตัว และยังไม่ได้รับการประกันตัว โดยศาลได้พิจารณาว่า หากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาอาจจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่างๆ และเป็นคดีที่มีโทษสูง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว นายอนุสรณ์ ส่งไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดกระบี่ เป็นผลัดแรก 12 วัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายังมีสิทธิยื่นประกันตัวกับศาลอุทธรณ์ได้ในวันพรุ่งนี้ ( 21 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันเปิดทำการ ในส่วนของคดีนั้นจะได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวน โดยเฉพาะที่มาที่ไปของเรื่องราว ซึ่งมีทั้ง อบต.อำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดเดินสำรวจออกโฉนดตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการเรียกสอบผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด หลังจากนั้น ก็จะได้นำสำนวนส่งอัยการดำเนินการต่อไป
ด้าน นายตรีธวัช รักเมือง นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้นก็ได้รายงานให้ทางกระทรวงมหาดไทย รับทราบ พร้อมให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมด เนื้อที่ 400 ไร่ ว่ามีใครเกี่ยวข้อง และออกโฉนดโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากอาจมีการพัวพัน การเรียกรับผลประโยชน์ ตามที่ผู้ต้องหาให้การในเบื้องต้น ส่วนในวันพรุ่งนี้ก็จะเดินสำรวจรังวัดแนวเขตพื้นที่ นสล.ซึ่งก็จะทราบว่ามีกี่แปลงที่ออกเอกสารบุกรุกที่หลวง ซึ่งจะได้ดำเนินการเสนอเพิกถอนต่อไป
