พรุ่งนี้แล้วสินะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะจัดงาน THEPHA Festival ครั้งที่ 1 “เทพามหาสนุก แหล่งรวมความสุขของทุกคน” โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 ก.ค.2559 หลังจาก กฟผ.ระดมสื่อมวลชนไปร่วมแถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2559 ที่ผ่านมา ณ เทพาบีช รีสอร์ท อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งก็เป็นสถานที่ที่จะใช้จัดงานดังกล่าวขึ้นนั่นเอง
ทาง กฟผ.ประกาศไว้อย่างยิ่งใหญ่ว่า ได้ร่วมกับ อ.เทพา จัดงาน THEPHA Festival เป็นครั้งแรก เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวันรายออีดิ้ลฟิตรี หรือวันเฉลิมฉลองหลังเดือนรอมฎอน โดยจะเนรมิตบริเวณชายหาดริมทะเลหน้าเทพาบีชรีสอร์ท เป็น 7 โซน เพื่อแสดงความรุ่งเรืองของเมืองเทพา ประกอบด้วย โซนแรก เทพาเมืองอุดมอาหารการกิน “ของดีประจำตำบล” โซนที่สอง เทพาเมืองรุ่งเรืองเรื่องทำกิน “เมืองเกษตร เมืองปศุสัตว์” โซนที่สาม เทพาเมืองมีรากเหง้า “เล่าเรื่องเมืองเทพา” โดย อ.มกุฎ อรฤดี ศิลปินแห่งชาติปี 2555 สาขาวรรณศิลป์ โซนที่สี่ เทพาเมืองพหุวัฒนธรรม “การแสดงพื้นบ้านชายแดนใต้” โซนที่ห้า เทพามหาสนุก “ฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดังบ่าววี” โซนที่เจ็ด เทพาเลื่องลือไก่ทอด “มีการแข่งขันแชมป์ไก่ทอดเทพา” และโซนที่แปด เทพาเมืองสุขภาพ “กีฬาชายหาด กีฬาฮาเฮ และ Chairity run”
นอกจากนี้ จะมีการอ่านบทกวีจิตวิญญาณแห่งเมืองเทพา โดย อ.อนุสรณ์ นินวน นักเขียนชาวเทพา การเสวนาในหัวข้อเมืองเทพาก่อนจะถึง 740 ปี การออกร้านนิทรรศการของส่วนราชการ กิจกรรม อ.เคลื่อนที่ การแข่งขันกีฬา แข่งขันการทำอาหาร การจำหน่ายสินค้าของดี อ.เทพา เป็นต้น
โดยทาง กฟผ.ประเมินว่า น่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวงานนี้ถึงกว่า 5,000 คน?!
แค่แถลงข่าวก็มีเรื่องราวเล่าขานสนุกปาก
ปรากฏว่าเริ่มรัวตีฆ้องร้องป่าวในวันแถลงข่าวของ กฟผ.ก็มีเรื่องราว “มหาสนุกแบบไม่คาดคิด” เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาสื่อมวลชน และผู้เข้าร่วมที่แม้จะไม่มากนักก็ตาม เนื่องจากจู่ๆ ก็มี “มวยคู่หยุดโลก” จัดโชว์นอกรายการจนเป็นที่ฮือฮาต๊ะติ๊งโหน่ง โดยเป็นการประกบคู่ระหว่างภรรยากับสามีนักการเมืองสายเลือดนักเลงแห่งเมืองเทพา
เรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างการจัดแถลงข่าวของ กฟผ.คราวนั้น ปรากฏว่า “นายก อบต.” ผู้มากบารมีในพื้นที่ อ.เทพา คนหนึ่งได้นั่งในแถวแขกผู้มีเกียรติคู่กับสาวงาม ผมยาว ปากแดง แหลงกลาง แถมมีการหยอกล้อต่อกระซิกกันจนเป็นที่อิจฉาของแขกเหรื่อตลอดเวลา
พลันขณะที่การจัดกิจกรรมแถลงข่าวต่างๆ ดำเนินไปได้สักพักใหญ่ก็ปรากฏเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น!!
ปรากฏมีหญิงสาวแต่งตัวภูมิฐานขับรถยนต์เข้าไปจอดใกล้ที่จัดงาน แล้วสาวเท้าเข้าไปในงานอย่างรวดเร็ว เพียงแวบเดียวก็ไปไปยืนจังก้าด้านหน้าที่นั่งของนายก อบต.คนดังกล่าว ชั่วพริบตาที่คนนั่งยังไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นมองด้วยซ้ำ อาวุธชุดแรกก็ถูกจัดหนักประเคน นั่นคือ ฝามือพิฆาตตบแบบระรัวใส่บ้องหูหนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่เบื้องหน้า
จากเสียงเจี๊ยวจ๊าวเฮฮาสนุกสนานของโฆษก และผู้เข้าร่วมงาน พลันกลับกลายเป็นเงียบกริบ และแทบทุกคนแสดงอาการตาค้าง แกมงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น?!
ไม่เพียงเท่านั้น เสียงโวยวายที่ตามมาระหว่างคู่กรณีที่ดำเนินต่อเนื่อง เริ่มทำให้สื่อมวลชน และแขกเหรื่อที่เข้าร่วมงานเริ่มเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นคือ ภรรยาตัวจริงตามมาจัดการนักการเมืองผู้เป็นสามีที่ควงกิ๊กออกงานแถลงข่าวของ กฟผ. แต่พูดจากันได้ไม่เท่าไหร่ และแม้ฝ่ายชายจะเดินหลีกไป แต่ก็ไม่พ้นเมื่อฝ่ายหญิงตามไปกระชากคอฝ่ายชายเข้าไปประเคนเข่าเข้าให้อีกระลอก
“นี้มันอะไรกันวะ ไหนบอกว่ามาช่วยราชการแถลงข่าวเทพามหาสนุก มาช่วยงานสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา แล้วทำไมเป็นแบบนี้ ถามจริงโกหกมากี่ครั้งแล้ว ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่รู้ มีคนรายงานตลอด แล้วนางผมยาวคนนี้ใคร ตอบมาเลย” เสียงแหลมคมดุดันของฝ่ายภรรยาตามมาอีกชุดใหญ่
เป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะเกิดเหตุทั้งสื่อมวลชน และผู้คนรอบข้างต่างเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าเข้าไปเป็นกรรมการ หรือแม้แต่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวแม้แต่น้อย สักพักใหญ่ๆ เมื่อฝ่ายภรรยานักเลงใหญ่จัดหนักจนหนำใจแล้วก็หันหลังกลับ พร้อมก้าวเท้าเดินออกไปจากวงแถลงข่าวของ กฟผ.ไปแบบแทบไม่เหลียวหลังมอง
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มากด้วยเหตุและผล
ภายหลังเกิดไม่คาดคิดขึ้นในระหว่างงานแถลงข่าวของ กฟผ.ต่อการจัดงาน “เทพามหาสนุก แหล่งรวมความสุขของทุกคน” ดังกล่าว ปรากฏว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างหนาหู โดยเฉพาะได้กลายเป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ของคนในวงการสื่อมวลชน และโดยเฉพาะในสังคมชาว อ.เทพา
แน่นอนถ้าเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ผ่านเรียวปากบางๆ ของเพศแม่ ท่วงทำนองมักจะโน้มเอียงไปทางเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจเป็นอย่างยิ่งต่อความรู้สึกนึกคิดของฝ่ายหญิงเสียมากกว่า แต่ถ้าเป็นสำเนียงเสียงห้าวๆ ของเพศพ่อก็ใช่จะเข้าข้างแต่ฝ่ายชาย กลับกลายเป็นว่ามีสุ้มเสียงของผู้ชายจำนวนมากที่แดสงความเข้าใจหัวอกของผู้เป็นภรรยา
สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มากมายไปด้วยสาระของ “เหตุ” และ “ผล” ต่อเรื่องราวโชว์นอกสคริปต์ในงานแถลงข่าวของ กฟผ.ที่เกิดขึ้นนั้น ปรากฏว่า มีหลายประเด็นที่มองเห็นความเป็นเรื่องราวที่มากมาย และเกินไปกว่าความเป็น “เรื่องส่วนตัว” แต่ถือเป็นเรื่องราวที่กระทบต่อ “เรื่องสังคมส่วนรวม” โดยตรง
ประเด็นหนึ่ง เป็นเรื่องของผู้ถูกเชิญให้เป็นแขกเข้าร่วมงานด้วยกันเอง ซึ่งจะเห็นความไม่เท่าเทียมแล้วเกิดขัดใจขึ้นมาก จึงหาโอกาสแจ้งเรื่องราวไปให้แก่ภรรยาของนายก อบต.คนดังกล่าวทราบ เพื่อให้มาจัดการต่อปัญหาความไม่เท่าเทียมที่เกิดขึ้น เพราะภายหลังเกิดเหตุการณ์ก็มีข้อถกเถียงตามมาแบบยังไม่สร่างซาว่า ทำไมผู้จัดงานให้ “ของรางวัล” แก่เฉพาะบางคนแบบฝนตกไม่ทั่วฟ้า
ประเด็นหนึ่ง มีกระแสประเมินว่าเป็น “แผนสกัดดาวรุ่ง” เนื่องจากนักการเมืองผู้มากบารมีคนนี้ ที่ผ่านมา ได้วางตัวเป็นแกนนำคนสำคัญในการสนับสนุนให้สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และยังแสดงออกต่อสาธรณชนอย่างออกหน้าออกตา สิ่งนี้ได้ไปบดบังรัศมีนักการเมืองในพื้นที่คนอื่นๆ ที่อยากจะขึ้นมาเป็นแกนนำคนสำคัญบ้าง โดยเฉพาะกับ “ครูพุ่งพุ้ยผิวดำ” ที่แม้จะไม่ใช่คนที่มีพื้นเพเป็นชาวเทพา แต่เขาก็พยายามสร้างเครดิตให้เป็นที่ยอมรับของ กฟผ.มาอย่างต่อเนื่อง
ประเด็นหนึ่ง ปรากฏการณ์โชว์นอกสคริปต์งานแถลงข่าวครั้งนี้ สะท้อนภาพองค์กรรัฐวิสาหกิจอย่าง กฟผ.ชัดเจนว่า ยังมากมายไปด้วยทั้ง “วิธีคิด” และ “วิธีทำ” แบบ “เก่าๆ” และ “เดิมๆ” ต่อการดำเนินงานต่างๆ เพื่อผลักดันเมกะโปรเจกต์ระดับการลงทุนหลายหมื่นล้านบาท โดยเฉพาะกับโครงการก่อสร้าง “โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา” โดยไม่สนใจว่าทั่วโลกเขาพัฒนาและก้าวเดินไปให้พ้นจาก “ถ่านหิน” กันถึงไหน หรืออย่างไรกันบ้างแล้ว
ต่อประเด็นหลังนี้มีสิ่งที่เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า การที่หน่วยงานอย่าง กฟผ.นำ “งบประมาณที่เป็นของประเทศชาติและประชาชน” ไปใช้หว่านโปรยเพื่อผลักดันทุกวิถีทางให้โครงการสามารถเดินหน้า โดยไม่เงี่ยหูฟังสังคมโลก หรือแม้แต่สังคมไทย สังคมคนใต้ และสังคมชาว จ.สงขลา เองว่าคิดอย่างไร ทั้งเดินหน้าจัดงาน หรือกิจกรรมต่างๆ แบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทั้งใช้ในการหว่านซื้อนักการเมือง ท้องถิ่น ผู้นำชาวบ้าน หรือแม้แต่ผู้นำศาสนา และกระทั่งชาวบ้านด้วยกันเอง สร้างความขัดแย้งแตกแยกในสังคม
โดยไม่คำนึงว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้สอดรับต่อความต้องการของสังคมโดยรวมหรือไม่ หรือหลงลืมไปว่าภาคประชาชนในช่วงนับสิบปีที่ผ่านมา เกิดการพัฒนาทางปัญญาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐวิสาหกิจอย่าง กฟผ. ที่เพิ่งจะได้ “กรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์” นั่งเป็น “ผู้ว่าการฯ” คนใหม่ ซึ่งนอกจากเพิ่งจะแถลงนโยบายให้สาธารณชนได้รับทราบแล้วว่า เขาจะนำพา กฟผ.ให้เดินหน้าไปอย่างไร เขาจะอาศัยโอกาสรับตำแหน่งใหม่จัดการแก้ไขปัญหาเก่าๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำซากอย่างไร โดยเฉพาะกับวิธีคิด และวิธีปฏิบัติของคน กฟผ.ที่ตามไม่เคยเท่าทันความเปลี่ยนแปลงของสังคม
เพราะอย่างน้อยก็จะช่วยแก้ปัญหาภายในที่แบ่งออกเป็น “3 ก๊ก” และเกิดการฟาดฟันกันหนัก มีการโยกย้ายระดับ ผอ.กองกันเป็นที่สนุกสนาน อันเป็นผลจากที่ กฟผ.รับคำสั่งให้เดินหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ที่ถึงกับต้องมอบหมายให้ “ทีมเฉพาะกิจ” ลงมาประสานก๊วนการเมือง และกลุ่มอิทธิพลเพื่อขับเคลื่อนกันอย่างชนิดสร้างความฮือฮาให้เป็นที่จับตาของผู้คนในสังคมแบบไม่อยากกะพริบตาในเวลานี้