ยะลา - บรรยากาศรับซื้อ-ขายส่งทุเรียนที่ด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา คึกคักเป็นพิเศษ หลังมีพ่อค้าแม่ค้าจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ต้องการทุเรียนในประเทศไทยจำนวนมาก เนื่องจากปีนี้มีผลผลิตน้อยจากภาวะภัยแล้ง
วันนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการขายส่งทุเรียน ที่บริเวณด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา ติดกับ อ.ปึงกาลันฮูลู รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ค่อนข้างคึกคักมากเป็นพิเศษ เนื่องจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจากประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ต่างมีความต้องการซื้อทุเรียนในประเทศไทย หลังปีนี้ผลผลิตออกมาน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง แม้จะไม่ถึงในช่วงทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง ออกผลผลิตก็ตาม
แต่ทางพ่อค้าแม่ค้ามีความต้องการทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และชะนี รวมถึงทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง และผลไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งนักบริโภคทุเรียนชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ต่างชื่นชอบรสชาติของผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ชะนี และทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง จึงกลายเป็นผลไม้ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความนิยมชื่นชอบเป็นอย่างมาก
ด้านแม่ค้าขายส่งทุเรียน กล่าวว่า ทุเรียนนอกฤดูส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดต่างประเทศ ราคาซื้อในช่วงนี้จะค่อนข้างแพง ถ้าราคาถูกจะเป็นทุเรียนประเภทตกไซส์ คือ ทุเรียนที่มีรูปร่างไม่สวย แต่เนื้อข้างในเหมือนกัน แต่ถ้าต้องการทุเรียนคุณภาพดีจะแข่งขันกันที่ราคา พ่อค้าแม่ค้าจำเป็นต้องซื้อของด้วยต้นทุนที่สูง แต่ถ้าสู้ราคาไม่ได้ก็ต้องซื้อทุเรียนประเภทตกไซส์มาขายแทน
โดยทุเรียนที่ขายในประเทศไทยต้องเป็นทุเรียนคุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์สูง 90-100 เปอร์เซ็นต์ ทุเรียนต้องแก่เท่านั้นถึงจะขายได้ แต่ถ้าส่งนอกแม้ว่าจะเป็นทุเรียนที่เปอร์เซ็นต์ต่ำ ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถขายได้ เพราะผู้บริโภคต่างประเทศนิยมบริโภคทุเรียนอ่อนกรอบๆ ปัจจุบัน ทุเรียนที่ขายตามท้องตลาดโดยเฉพาะตลาดค้าส่งจะหาได้เฉพาะทุเรียน 80-90 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
และจากการที่ผลผลิตทุเรียนในปีนี้ค่อนข้างน้อย ปัจจัยสำคัญมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ดอกทุเรียนที่ออกเป็นจำนวนมากร่วง ส่งผลให้ปีนี้ทุเรียนออกล่าช้ากว่าปีอื่นๆ คาดว่าผลผลิตจะเข้าสู่ตลาดได้ไม่มากนัก แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ทุเรียนจะเริ่มทยอยเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น
ถ้าจะประเมินราคาขายทุเรียนในช่วงนี้ ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ก้านยาว ชะนี พวงมณี สวยๆ ต้นทุนซื้อจากสวน 80 บาท/กิโลกรัม ราคาขายปลีกทั่วไป 120-150 บาท/กิโลกรัม ส่วนทุเรียนพันธุ์เหมา ซาน หว่อง กิโลกรัมละ 400-500 บาท ซึ่งเป็นที่นิยมบริโภคของชาวมาเลเซียและสิงคโปร์