xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ เครืองาม” ร่วมวงมูลนิธิเรารักสงขลาและ 15 ภาคี ถกหาช่องหนุนพัฒนาเมืองป๋า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - มูลนิธิเรารักสงขลาเชิญ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ร่วมประชุมกับ 15 ภาคี หวังแรงหนุนจากรัฐขับเคลื่อนการพัฒนา จ.สงขลา
 
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่ห้องเกียรติยศ หอประวัติ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เชิงสะพานติณสูลานนท์ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการมูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานในการประชุม มูลนิธิเรารักสงขลา ซึ่งมี นายบัญญัติ จันทเสนะ ประธานมูลนิติเรารักสงขลา และภาคีเครือข่าย 15 ภาคี เช่น อธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆ ใน จ.สงขลา ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม อบจ.สงขลา และองค์กรภาคประชาสังคม รวมถึง นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผวจ.สงขลา และนายวิสุทธิ์ สิงห์ขจรวรกุล อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีต ผอ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายกสมาคมมูลนิธิ และสมาคม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
 

 
นายบัญญัติ จันทเสนะ ประธานมูลนิธิเรารักสงขลา ได้นำเสนอแผนงานการพัฒนา จ.สงขลา ของมูลนิธิเรารักสงขลา ที่จัดทำเป็นแผนพัฒนาจากความคิดเห็นของ 15 ภาคีใน จ.สงขลา เป็นแผนที่ใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาในปี 2559-2570 ให้ นายวิษณุ ได้รับฟัง เพื่อขอฟังความคิดเห็น และคำชี้แนะ และการสนับสนุนจากรัฐบาล
 
สำหรับแผนพัฒนา จ.สงขลา มุ่งเน้นการพัฒนาความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มการลงทุน เพิ่มมูลค่าทางการค้า และเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนทุกภาคส่วน เน้นการพัฒนาสังคมบนวิถีของความเป็นอยู่อย่างพอเพียง ครอบครัวอบอุ่น สังคมเอื้ออาทร การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสมานฉันท์ และอยู่เย็นเป็นสุข เน้นการฟื้นฟูพัฒนาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เป็นเมืองสีเขียว และขจัดปัญหาความมั่นคงใน 4 อำเภอของ จ.สงขลา เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยสงบสุข 
 

 
นอกจากนี้ ยังเน้นในเรื่องการศึกษา การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนเพื่อการเข้าสู่สังคมของประชาคมอาเซียน โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่รวมตัวกันเป็น 15 ภาคี เพื่อผลักดันให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และอื่นๆ นำเอาแผนงานของมูลนิธิเรารักสงขลาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม
 
นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นแผนงานที่ดีที่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันผลักดันให้เป็นไปตามแผน เพราะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดสงขลา ส่วนในอนาคตจะมีการเพิ่มเติมโดยเพิ่มจาก 15 ภาคี เป็น 16 หรือ 17 ภาคี ก็จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนา จ.สงขลา เป็นอย่างมาก
 

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น