สตูล - ตำรวจสตูล จับกุมแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์รายใหญ่ พร้อมยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก เตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง
วันนี้ (13 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ทัตธงสักก์ ภู่พันธัชสีห์ ผบก.ตร.ภ.จว.สตูล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายต้น (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง นายตอม (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาว ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไอ สีน้ำเงิน ทะเบียน กพง 266 สต จำนวน 1 คัน เหตุเกิดที่ 82/1 ม.6 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง เมื่อ 11 มิ.ย.2559 โดยกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ หรือรับของโจร” ก่อนสืบสวนสอบสวนขยายผลไปตามยึดจากบ้านเครือข่ายในพื้นที่ ต.ทุ่งนุ้ย ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง โดยชำแหละเป็นชิ้นส่วน หรือฝากขาย จนสามารถรวบรวมมาได้ 10 คัน พร้อมโครงรถเปล่า 2 คัน และชิ้นส่วนต่างๆ ที่ชำแหละอีกเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รอง ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดสตูล กล่าวว่า ในช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ได้มีมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมในการติดตามจับกุมคนร้าย 2 คน ที่เกี่ยวข้องต่อการลักรถจักรยานยนต์ เริ่มจากพบโครงรถจัรยานยนต์ จำนวน 2 โครง การติดตามตัวเลขจากตัวถังรถ จนสามารถยึดรถมาได้เพิ่ม 10 คัน โดยพบว่า คนร้ายได้ลักรถมาจาก อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และนำรถที่ลักตระเวนก่อเหตุในพื้นที่สาธารณะที่มีการเสียบกุญแจคารถไว้ หรือมีการล็อกคอแบบธรรมดา ก่อนนำไปขายในพื้น ที่ อ.มะนัง จ.สตูล อ.ป่าบอน จ.พัทลุง และ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ราคา 4,000-6,000 บาท เพื่อนำเงินมาเที่ยวเตร่ และซื้อน้ำกระท่อมต้มกิน
สำหรับคนร้ายทั้ง 2 คนนี้ถือว่า เป็นรายใหญ่ของพื้นที่ สภ.ควนกาหลง โดยตลอดเดือน เม.ย.-มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการโจรกรรมรถอย่างต่อเนื่อง 2-3 คัน และเตรียมขยายผลไปถึงแหล่งรับซื้อของโจร ที่เบื้องต้น ทราบว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นในเครือข่ายที่รับซื้อ ซึ่งประชาชนสามารถมาตรวจสอบขอรับรถว่าถูกคนร้ายทั้ง 2 คนนี้โจรกรรมรถของท่านไปในท้องที่ไหนได้ พร้อมฝากเตือนภัยเพิ่มความระมัดระวังการใช้รถจักรยานยนต์ทุกคน ขอให้ตรวจสอบการล็อกล้อ ล็อกขาตั้ง และการไม่เสียบกุญแจคารถไว้เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่คนร้าย ก่อนจะให้คนร้ายซึ่งเป็นเยาวชนแสดงการโจรกรรมรถ โดยใช้เครื่องมืออะไหล่ที่ทำขึ้นเองอย่างง่าย แทงเข้ามาที่กุญแจรถที่ล็อกคอไว้ ใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็สามารถปลดล็อกคอ และสตาร์รถติดเครื่องหลบหนีไปได้อย่างลอยนวล ซึ่งนับเป็นภัยที่น่ากลัวมาในสังคมปัจจุบัน
หลังมีการจับกุม 2 ผู้ต้องหา ทางผู้เสียหายหลายพื้นที่ก็เดินทางเข้าดูรถของตัวเอง โดยหลายคนแจ้งความจำนงพร้อมนำหลักฐานมาแสดงการยืนยันว่า เป็นรถของตนที่ถูกโจรกรรมไป ในขณะที่หลายคนก็ผิดหวัง และหวังจะได้รถจักรยานยนต์กลับคืนมา