xs
xsm
sm
md
lg

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณที่สงขลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 ประกาศเกียรติคุณ และเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิต ครบ 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ของเหล่ากาชาดภาค 12 ที่จังหวัดสงขลา

วันนี้ (8 มิ.ย.) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงแรมบีพี สมิหลาบีช โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ต อ.เมือง จ.สงขลา ในการพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 ประกาศเกียรติ และเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิตครบ 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ประจำปี พ.ศ.2557-2558 ของเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลาภาค 12 จำนวนทั้งสิ้น 487 ราย ทั้งนี้ เพื่อแสดงความขอบคุณ และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้สนับสนุนการบริจาคโลหิต โดยเฉพาะผู้บริจาคโลหิต ซึ่งเป็นผู้มีจิตศรัทธาสละโลหิตในร่างกายของตนเองเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ ผู้เจ็บป่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
 

 
ในการนี้ มีผู้บริจาคโลหิตผู้ทำคุณประโยชน์แก่สภากาชาดไทย และสถาบันที่ให้การสนับสนุนการบริจาคโลหิต ประจำปี 2557-2558 ของจังหวัดต่างๆ ในเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลาภาค 12 ได้แก่ พัทลุง ตรัง นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา และสตูล รวม 7 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย

1.พระภิกษุ รับพระราชทานเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิตครบ 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง จำนวน 8 รูป

2.ผู้บริจาคโลหิตครบ 100 ครั้ง และผู้ทำคุณประโยชน์แก่สภากาชาดไทย รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 จำนวน 3 ราย

3.สถาบันที่ให้การสนับสนุนการบริจาคโลหิต รับพระราชทานประกาศเกียรติคุณ และผู้บริจาคโลหิต รับพระราชทานเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิตครบ 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง จำนวน 476 ราย

ต่อจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสแก่ผู้เข้ารับพระราชทานเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิตฯ และทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับผู้บริหารสภากาชาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 12 คณะกรรมการกาชาดสงขลา และข้าราชการจังหวัดสงขลา
 

 
ทั้งนี้ นับตั้งแต่สภากาชาดไทยได้เริ่มงานบริการโลหิตเมื่อปีพุทธศักราช 2495 มีภารกิจหลังในการจัดหาโลลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพสูงสุดสำหรับผู้ป่วยทั่วประเทศ ปัจจุบันมีเป้าหมายการจัดหาโลหิตทั่วประเทศปีละ 2,046,000 ยูนิต โดยมีศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ดำเนินการจัดหาโลหิตในส่วนกลาง คือ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ได้ปีละ 696,000 ยูนิต

ส่วนภูมิภาค ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ สาขาบริการโลหิตโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศต้องจัดหาโลหิตให้ได้ให้ได้ปีละ 1,350,000 ยูนิต ถึงแม้ว่าแต่ละปีมีผู้มีจิตศรัทธาเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ยังมีความต้องการโลหิตเพิ่มมากขึ้นปีละ 8-10% จึงต้องมีการรณรงค์ให้มีการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอทุก 3 เดือน หรือปีละ 4 ครั้งเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้มีปริมาณที่โลหิตเพียงพอสำหรับผู้ป่วยทั่วประเทศ
 


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น