ปัตตานี - นายอำเภอเมืองปัตตานี ต้อนวัวกว่า 30 ตัวเข้าคอก หลังชาวบ้านร้องเรียนสร้างความเดือดร้อนวุ่นวาย ลั่นหากไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของพร้อมขายทอดตลาดตามกฎหมาย หากรู้ใครเป็นเจ้าของจะดำเนินคดีเช่นกัน
วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนในพื้นที่ ต.รูสะมิแล และ ต.บานา อ.เมืองปัตตานี ได้เข้าร้องเรียนต่อ นายสมนึก พรหมเขียว นายอำเภอเมืองปัตตานี ว่า ได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากวัวหลายสิบตัวที่ไม่ทราบเจ้าของ และปล่อยให้เดินบนถนนสายต่างๆ และเข้าไปในหมู่บ้าน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมายาวนาน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้แจ้งไปยัง อบต.ทั้ง 2 แห่งก็ไม่ได้รับการแก้ไข จนปล่อยให้วัวเพิ่มจำนวนสร้างความเดือดร้อนทั้งผู้ที่ใช้รถ และห้างร้านต่างๆ
หลังจากที่ นายสมนึก พรหมเขียว นายอำเภอเมืองปัตตานี ได้รับการร้องเรียน จึงได้เรียกปลัดอำเภอประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ.ทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อส. และทหาร ตำรวจ รวมกำลังกันหารือ และวางแผนการออกไปทำการจับฝูงวัวที่เดินเร้ร่อนตามท้องถนนต่างๆ ให้หมด และนำมากักขังไว้ในคอกที่ได้สร้างขึ้นมากักขังสัตว์ประเภทไม่มีเจ้าของ ซึ่งในการออกจับวัวครั้งนี้ได้มากว่า 30 ตัว โดยเฉพาะบริเวณถนนสายเจริญประดิษฐ์ ซึ่งเป็นถนนไปมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ซึ่งเป็นถนนสายเศรษฐกิจ สามารถจับวัวได้กว่า 10 ตัว
นายสมนึก พรหมเขียว นายอำเภอเมืองปัตตานี กล่าวว่า พื้นที่ตำบลรูสะมิแล และตำบลบานา มีประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนว่ามี วัว แพะ และแกะของชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ปล่อยออกมาเดินหาอาหารตามถนน และหน้าร้านต่างๆ จนส่งผลกระทบในการสัญจรบนท้องถนน ประกอบกับสัตว์บางชนิดขุดคุ้ยถังขยะเพื่อหาอาหาร และถ่ายอุจจาระไม่เป็นที่เป็นทาง ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการประกาศแจ้งเตือนไปยังเจ้าของแล้วให้รีบนำสัตว์เลี้ยงกลับไปเลี้ยงตามคอก หากปล่อยวัวสร้างความเดือดร้อนก็จะจับ และดำเนินคดีต่อเจ้าของทันที และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีเจ้าของปฏิบัติตามที่แจ้ง
ตนจึงต้องดำเนินการทันทีโดยให้เจ้าหน้าที่ออกจับสัตว์เลี้ยงทุกชนิดทุกตัวโดยไม่มีข้อยกเว้นว่าเป็นของใคร หรือของผู้มีอิทธิพลคนไหน ขณะนี้ได้กักไว้กว่า 30 ตัว และกำลังส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบว่า เป็นวัวของใครบ้างเพื่อทำการดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากไม่มารับตนก็จะดำเนินการตามระเบียบ และขายทอดตลาด ส่วนเจ้าของนั้นถ้ามีหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อร่วมกันจัดระเบียบในพื้นที่ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยได้ดำเนินตามกฎหมายต่อผู้เลี้ยงตามมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายต่อไป