ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เร่งติดตามโรฮีนจาหลบหนีจากห้องกัก รวบได้เพิ่มอีก 3 ยังหนีอีก 6 ด้าน ตำรวจเร่งสอบปากคำกรณีเจ้าหน้าที่วิสามัญชาวโรฮีนจาดับ 1 ราย เหตุใช้ก้อนหินขว้างใส่เจ้าหน้าที่ขณะปีนเขาเพื่อติดตามจับกุม เตรียมแจ้งข้อหาคนตายพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติงาน
วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการติดตามจับกุมชาวโรฮีนจาที่หลบหนีจากห้องควบคุมตัว ของด่านตรวจคนเข้าเมืองพังงา ล่าสุด ในช่วงเช้าวันนี้ (24 พ.ค.) นายทรงยศ นาคฤทธิ์ กำนัน ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองจ.พังงา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตม.พังงา นำกำลังชุด ชรบ. ออกตรวจสอบ และติดตามจับกุมกลุ่มชาวโรฮีนจาที่ยังคงหลบหนีอีกจำนวนหนึ่ง และจากการลงพื้นที่สามารถควบคุมตัวชาวโรฮีนจาที่หลบหนีได้อีก 3 คน ในพื้นที่บริเวณบ้านบ่อแสน หมู่ 1 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ทำให้จนถึงขณะนี้สามารถจับกุมกลับมาได้แล้ว 14 คน เสียชีวิต 1 คน ยังเหลือที่กำลังหลบหนีอยู่อีก 6 คน
ขณะที่ ร.ต.อ.ชาตรี เพียรขยาย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพังงา จ.พังงา ได้เร่งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องกรณีมีการวิสามัญชาวโรฮีนจาที่หลบหนีออกจากห้องขัง จำนวน 1 คน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย จากการประมวลเหตุการณ์พบเชื่อได้ว่า มีการต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่ ตม.พังงา ที่ปีนเขาขึ้นเพื่อจับกุม นายมูฮัมหมัดฆอนี อายุ 18 ปี ซึ่งหลบหนีขึ้นไปบนภูเขา และมีการต่อสู้โดย นายมูฮัมหมัดฆอนี ได้นำก้อนหินขนาดใหญ่ขว้างใส่ และเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ ตม.ขณะปีนเขา ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ ตม.พังงา จึงได้ชักอาวุธปืนยิงใส่เพื่อเป็นการป้องกันตัว เป็นเหตุให้ นายมูฮัมหมัดฆอนี เสียชีวิต
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ตาย คือ นายมูฮัมหมัดฆอนี อายุ 18 ปี ชาวโรนจญา ในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และแจ้งข้อกล่าวหาทางเจ้าหน้าที่ ตม.พังงา ว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย รอง ผบก.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า คดีที่มีชาวโรฮีนจาเสียชีวิต ได้ให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายแล้ว โดยให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ที่ยิงปืนจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ส่วนจะเป็นการป้องกันตัวหรือไม่อย่างไรก็ต้องรอการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ที่บริเวณ สภ.เมืองพังงา มีกลุ่มมูลนิธิเพื่อสันติ จ.ภูเก็ต ได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอเอกสารประกอบการนำศพไปประกอบพิธีตามพิธีกรรมทางศาสนาที่ จ.ภูเก็ต โดยทางเจ้าหน้าที่ ตม.ได้รับประสานกับทางญาติของผู้ตายเพื่อรับทราบ ส่วนชาวโรฮีนจาที่ยังคงหลบหนีอยู่ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามโดยทำการสืบสวนหาข่าว และเบาะแสเส้นทางการหลบหนีต่อไป
วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการติดตามจับกุมชาวโรฮีนจาที่หลบหนีจากห้องควบคุมตัว ของด่านตรวจคนเข้าเมืองพังงา ล่าสุด ในช่วงเช้าวันนี้ (24 พ.ค.) นายทรงยศ นาคฤทธิ์ กำนัน ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองจ.พังงา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ตม.พังงา นำกำลังชุด ชรบ. ออกตรวจสอบ และติดตามจับกุมกลุ่มชาวโรฮีนจาที่ยังคงหลบหนีอีกจำนวนหนึ่ง และจากการลงพื้นที่สามารถควบคุมตัวชาวโรฮีนจาที่หลบหนีได้อีก 3 คน ในพื้นที่บริเวณบ้านบ่อแสน หมู่ 1 ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา ทำให้จนถึงขณะนี้สามารถจับกุมกลับมาได้แล้ว 14 คน เสียชีวิต 1 คน ยังเหลือที่กำลังหลบหนีอยู่อีก 6 คน
ขณะที่ ร.ต.อ.ชาตรี เพียรขยาย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพังงา จ.พังงา ได้เร่งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องกรณีมีการวิสามัญชาวโรฮีนจาที่หลบหนีออกจากห้องขัง จำนวน 1 คน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย จากการประมวลเหตุการณ์พบเชื่อได้ว่า มีการต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่ ตม.พังงา ที่ปีนเขาขึ้นเพื่อจับกุม นายมูฮัมหมัดฆอนี อายุ 18 ปี ซึ่งหลบหนีขึ้นไปบนภูเขา และมีการต่อสู้โดย นายมูฮัมหมัดฆอนี ได้นำก้อนหินขนาดใหญ่ขว้างใส่ และเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ ตม.ขณะปีนเขา ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ ตม.พังงา จึงได้ชักอาวุธปืนยิงใส่เพื่อเป็นการป้องกันตัว เป็นเหตุให้ นายมูฮัมหมัดฆอนี เสียชีวิต
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ตาย คือ นายมูฮัมหมัดฆอนี อายุ 18 ปี ชาวโรนจญา ในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และแจ้งข้อกล่าวหาทางเจ้าหน้าที่ ตม.พังงา ว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.โชติ ชิดไชย รอง ผบก.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า คดีที่มีชาวโรฮีนจาเสียชีวิต ได้ให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายแล้ว โดยให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ที่ยิงปืนจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ส่วนจะเป็นการป้องกันตัวหรือไม่อย่างไรก็ต้องรอการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ที่บริเวณ สภ.เมืองพังงา มีกลุ่มมูลนิธิเพื่อสันติ จ.ภูเก็ต ได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอเอกสารประกอบการนำศพไปประกอบพิธีตามพิธีกรรมทางศาสนาที่ จ.ภูเก็ต โดยทางเจ้าหน้าที่ ตม.ได้รับประสานกับทางญาติของผู้ตายเพื่อรับทราบ ส่วนชาวโรฮีนจาที่ยังคงหลบหนีอยู่ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามโดยทำการสืบสวนหาข่าว และเบาะแสเส้นทางการหลบหนีต่อไป