xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งจับชาวบ้านลอบเผา และบุกรุกป่าพรุนราธิวาส จนท.ควบคุมไฟได้แล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นราธิวาส - เจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีชาวบ้านเผา และบุกรุกป่าสงวน หลังเหตุไฟไหม้ป่าเกือบมอดสนิท และเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ

วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับไฟไหม้ป่าพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน แล้วได้ลามเข้าพื้นที่ป่าสงวนลุ่มน้ำบางนราแปลงที่ 2 รวมทั้งป่าพรุโต๊ะแดง ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.59 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งล่าสุด การดับไฟไหม้ป่าในพื้นที่ได้คลี่คลายไปตามลำดับจากสภาวะฝนที่ตกลงมา เหลือเพียงในพื้นที่บ้านโคกคา ม.5 ต.พร่อน อ.ตากใบ ที่ยังหลงเหลือเพียงบางจุด ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคาดว่าใน 1 ถึง 2 วันที่จะถึงนี้ เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมไฟไหม้ป่าให้มอดลงได้

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในภาพรวมหลังจากไฟไหม้ป่าได้เริ่มคลี่คลาย นายชาตรี วัชรเผด็จศึก ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 จ.นราธิวาส นายวิโรจน์ ศิริอุมากุล หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ร่วมกันทยอยแจ้งความดำเนินคดีต่อชาวบ้านที่เผาป่า และบุกรุกป่าสงวนลุ่มน้ำบางนราแปลงที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.59 ถึงวันที่ 18 พ.ค.59 จำนวน 8 ราย จนสร้างความเสียหายต่อผืนป่าเป็นจำนวนมาก โดยที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ประเมินตัวเลขที่ชัดเจนว่าเสียหายจำนวนกี่ไร่ และยากต่อการฟื้นฟู

โดยแยกรายละเอียดการแจ้งความดำเนินคดีต่อชาวบ้านในพื้นที่บ้านปอเนาะ ม.7 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จำนวน 2 ราย แจ้งความดำเนินคดีต่อชาวบ้านในพื้นที่บ้านลูโบ๊ะซามา ม.8 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จำนวน 1 ราย แจ้งความดำเนินคดีต่อชาวบ้านในพื้นที่บ้านโคกคู ม.3 ต.พร่อน อ.ตากใบ จำนวน 4 ราย ในพื้นที่บ้านโคกชุมบก ม.5 ต.บางขุนทอง จำนวน 1 ราย ในข้อหากระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ซึ่งชาวบ้านที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีต้องนำหลักฐานการครอบครองที่ดินมาแสดง และให้ปากคำกรณีไฟไหม้ป่าที่ทำกินแล้วลุกลามเข้าพื้นที่ป่าสงวนนั้น มาจากสาเหตุใด
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น