โดย...นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
ในช่วงหน้าร้อนตับแตกเช่นนี้ ได้กลายเป็นโอกาสทองของ กฟผ.และทุนถ่านหินในการอาศัยความร้อนแล้งขายความเย็นสำหรับคนเมืองให้หนุนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และประโคมข่าวไฟฟ้าสำรองไม่พอ จึงต้องสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ถ่านหินเท่านั้นคือคำตอบ ทั้งๆ ที่ความจริง ถ่านหินคือ หายนะของคนรอบเหมือง และรอบโรงไฟฟ้า และเป็นหายนะของทุกคนด้วย เพราะถ่านหินคือปีศาจคาร์บอนดำที่หลับใหลอยู่ใต้โลก แต่มนุษย์ขุดมาเผาอย่างบ้าคลั่งเปลี่ยนคาร์บอนที่สะสมในรูปของแข็งให้ออกมาเป็นก๊าซเรือนกระจกจำนวนวันละมหาศาล อันเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
Peak ไฟ หรือการใช้ไฟฟ้าสูงสุดนั้นเป็นช่วงบ่ายคือ ประมาณบ่ายครึ่ง ถึงบ่ายสามครึ่งของทุกวันคงไม่มีเหตุอื่นใดนอกจากการใช้เครื่องปรับอากาศพร้อมๆ กันในสภาพอากาศที่ร้อนจัด หากเราคิดกลับกันวันไหนฟ้าโล่งแดดร้อนแรง วันนั้นก็จะมีการใช้ไฟมากแต่พลังแดดที่จะมาใช้ผลิตไฟฟ้าก็มีมากด้วย การติดโซลาร์เซลผลิตไฟฟ้าบนหลังคาบ้านทุกบ้านเพื่อผลิตไฟฟ้าไว้เสริมใช้เองด้วยจึงเป็นคำตอบในการตอบโจทย์ peak ไฟพุ่งที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เพิ่มสารก่อมะเร็ง ไม่ต้องบังคับให้ชาวบ้านต้องย้ายถิ่น ไม่เพิ่มก๊าซเรือนกระจกให้โลกร้อนขึ้นไปอีก นับเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนกว่า
หากทุกหลังคาบ้านแต่ละหลังติดแผงโซลาร์สัก 1,000 watt ก็พอ ขอสัก 1 ล้านหลังคาเรือน เราจะได้ไฟ 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งมากกว่ากำลังผลิตของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่เสียอีก แม้ว่าจะไม่สามารถผลิตได้ทั้งวันทั้งคืน แต่ก็มากพอที่จะช่วยผลิตไฟในช่วงพีก เพียงติดตั้งแผงโซลาร์ขนาดใหญ่ 500 วัตต์ 2 แผงก็เอาอยู่แล้ว บางบ้านบางอาคารอาจติดตั้งมากกว่านั้นก็ยิ่งดี ปัญหา peak ไฟสูงในช่วงบ่ายที่ต้องเพิ่มโรงไฟฟ้าก็จะลดความจำเป็นลงไป ส่วนช่วงหัวค่ำ หากบางบ้านที่มีกำลังทรัพย์มากขึ้นจะมีการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ไว้ใช้กลางคืน ก็จะช่วยลดภาระประเทศในการสร้างโรงไฟฟ้าได้อีกมาก
กฟผ.เองก็พยายามรณรงค์ให้ประชาชนช่วยกันลดการใช้ไฟในช่วงใช้ไฟสูงสุด แต่กลับเสนอให้แก้ด้วยการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ทำไมรัฐบาลไม่ส่งเสริมนโยบายให้ทุกบ้านติดแผงโซลาร์บนหลังคาเพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง หากเหลือใช้ก็จ่ายไฟเข้าระบบขายถูกๆ ให้ กฟผ.ก็ได้ ดีกว่าหายใจเข้าออกเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านตนเองช่วยเพิ่มการผลิตไฟในช่วง peak ได้โดยไม่ต้องให้ชาวบ้านกระบี่ สงขลา ปัตตานี หรือที่อื่นใดเป็นผู้เสียสละ
หากทุกหลังคาบ้านติดแผงโซลาร์ถ้วนทั่ว เหตุอ้างสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินก็จะหมดความชอบธรรม เมืองไทยนั้นแดดร้อนแรง เรามาช่วยกันส่งเสียงให้รัฐบาลออกนโยบายกู้โลกด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานแห่งชาติ ให้หนุนให้ทุกหลังคาบ้านติดแผงโซลาร์กันดีกว่า รถคันแรกลดราคาคันละแสนยังทำได้ ส่งเสริมการลงทุนบีโอไอลดภาษีให้ทุนต่างชาติก็ทำได้ แล้วทำไมรัฐจะอุดหนุนให้มีเซลล์แสงอาทิตย์ติดทุกหลังคาบ้านบ้างไม่ได้
หากรัฐบาลอุดหนุนบ้านที่ต้องการติดแผงโซลาร์เซลบนหลังคา เพียงหลังละ 36,000 บาท จำนวน 1 ล้านหลังคาเรือน จะเป็นเงินงบประมาณ 36,000 ล้านบาท ส่วนเกินนั้นก็ให้แต่ละบ้านจ่ายสมทบเพิ่มเติม ผมคิดว่าเราจะมีคนสนใจสมัครยิ่งกว่าโครงการรถคันแรก ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจได้ด้วย งบจำนวน 36,000 ล้านบาท ก็ไม่ได้มากมายอะไรสำหรับรัฐบาล แค่ทัพเรือชะลอการซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำ จากจีนมูลค่า 36,000 ล้านบาทไปสักปี ก็จะมีงบมาอุดหนุนโครงการนี้แล้ว
ร้อนตับแลบ พีกไฟพุ่ง ควรต้องแก้ด้วย solar roof หรือหลังคาพลังแสงอาทิตย์ ไม่ใช่ถ่านหิน
