เรื่อง/ภาพ : ปรีชา สถิตเรืองศักดิ์
------------------------------------------------------------------------------------------
ท่ามกลางปัญหาสังคมที่ฟอนเฟะ และการรุมเร้าจากเศรษฐกิจตกต่ำ ที่นำพาความลำบากยากเข็ญที่เกิดขึ้นต่อผู้คนที่เคยอยู่ดีกินดีมาเป็นอยู่ด้วยความทุกข์ยากปากหมอง จนทำให้หลายคนคิดสั้นจบชีวิตตนเองด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อที่จะจบทุกปัญหาที่เกิดขึ้น
ในขณะที่หลายคนใช้วิธีการดิ้นรนด้วยการใช้สติปัญญา ความสามารถ ความไม่ย่อท้อในการต่อสู้ชีวิต ด้วยหลักคิดที่ว่าชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป ขณะที่บางคนตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาด้วยการละทิ้งถิ่นฐาน ละทิ้งงานเดิมไปแสวงหาสิ่งใหม่แบบที่เรียกว่าไปตายดาบหน้า เพื่ออนาคตที่ดีกว่าถ้ามีโอกาส
แต่คนจำนวนหนึ่งในสังคมไทยที่รู้สึกถึงการไร้ทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาชีวิต เศรษฐกิจ สังคม แสวงหาทางออกของปัญหาด้วยการเดินทางเข้าวัด เพื่อใช้ธรรมะเป็นแสงธรรมในการส่องทาง ให้คำสอนของพระพุทธศาสนาในการสร้างปัญญา หรือทำให้เกิดปัญญาเพื่อที่จะออกจากความมืดไปสู่แสงสว่างแห่งชีวิต
จึงไม่แปลกใจ ที่วันนี้วัดหลายแห่งของประเทศไทยจะมีคนทั้งที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว และวัยต่างๆ จะเดินเข้าวัดด้วยความตั้งใจมากขึ้นเรื่อยๆ และก็ไม่แปลกใจที่หากเดินเข้าไปในร้านหนังสือใหญ่ๆ จะเห็นว่าหนังสือที่ขายดีกลายเป็นหนังสือธรรมะของหลวงพ่อต่างๆ รวมทั้งหนังสือที่เกี่ยวกับกรรม เช่น กฎแห่งกรรม หรือการแก้กรรม การสร้างกุศล ผลบุญ แทนที่จะเป็นหนังสือวิชาการ หรือหนังสือที่ผู้ประพันธ์ได้รับรางวัลในชื่อต่างๆ
วัดนาทวี ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ก็เป็นวัดอีกวัดหนึ่งใน จ.สงขลา ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของคนในจังหวัดสงขลา และใกล้เคียง รวมถึงผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย หรือสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบัน มีผู้เดินทางมาเพื่อทำบุญ และฟังคำแนะนำถึงการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น จากพระครูสุภัทร อริโย หรือ หลวงพ่อภัทร หรืออาจารย์ภัทร ซึ่งผู้ที่เลื่อมใสให้สมญานามว่า “เทพสามตา” เจ้าคณะ ต.นาทวี และเจ้าอาวาสวัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา
สำหรับวัดนาทวีแห่งนี้ นอกจากศาสนะที่ปลูกสร้าง และประดิษฐานพระพุทธรูปในรูปแบบต่างๆ ทั้งของศาสนาพุทธ ศาสนาพาหมณ์ ศาสนาฮินดู และเจ้าแม่กวนอิมแล้ว ยังเป็นวัดที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ ใบหญ้านานาพรรณ สร้างความร่มรื่น และฉ่ำเย็นให้แก่ผู้ที่ไปทำบุญทำทานที่วัดแห่งนี้ และวัดแห่งนี้ นายกำพล ตันสัจจา เจ้าของสวนนงนุช ได้เดินทางมาเยี่ยม และรับปากว่า จะดำเนินการนำต้นไม้มาปลูกเพื่อสร้างความสวยงาม และความร่มรื่นให้มากกว่าเดิม
นอกจากนั้น วัดนาทวีแห่งนี้ยังมีรูปเหมือนของหลวงพ่อเลื่อน พระครูประจักษ์ นวการ เจ้าอาวาสรูปที่ 5 ที่เป็นพระผู้เข้มขลังด้วยญาณบารมี เป็นที่เคารพสักการะของคนทั้งใกล้ไกล และรูปปั้นหลวงพ่อโต ที่เป็นหลวงพ่อที่ศักดิ์สิทธิ์
สำหรับวัตรปฏิบัติของ อาจารย์ภัทร เจ้าอาวาสวัดนาทวี ซึ่งกลายเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนทั้งคนไทย และต่างประเทศ นอกจากจะเป็นผู้ที่มีความเข้มขลังในการปลุกเสกพระเครื่อง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ที่เป็นที่รู้จักของผู้มีจิตศรัทธาในพระเครื่อง และนักเลงพระแล้ว ยังเป็นพระแท้อีกรูปหนึ่งที่ไม่มุ่งหากำไรจากวัตถุสิ่งของ เงินทองที่ได้จากผู้ที่มีจิตศรัทธาเป็นผู้ถวาย
เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เหลือจากการใช้ในการทะนุบำรุงวัดนาทวี และการศึกษาของภิกษุ สามเณรที่บวชเรียนอยู่ภายในวัด จะถูกแจกจ่ายให้แก่การกุศล เช่น การมอบให้แก่โรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย มอบให้โรงเรียนต่างๆ เพื่อเป็นทุนการศึกษาของเยาวชน การจัดตั้งมูลนิธิอริโยเพื่อการกุศลในรูปแบบต่างๆ เพื่อเป็นการขจัดปัดเป่าความเดือดร้อนของส่วนรวม
อาจารย์ภัทร อริโย หรือเทพสามตา กล่าวว่า วัดนาทวีแห่งนี้ คือ ที่พึ่งทางใจของผู้คนที่เข้ามาทำบุญที่วัดเพื่อความสุขใจ และเพื่อคลายทุกข์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสงฆ์ในการเป็นที่พึ่งเพื่อชี้ทางแห่งปัญญา วันนี้ วัดนาทวี ยังต้องมีการพัฒนาอีกหลายด้าน มีการทำสวนสมุนไพรเพื่อประโยชน์ของผู้ที่เข้ามาที่วัด มีการก่อสร้างสิ่งต่างๆ เพื่อรองรับความเจริญ ซึ่งจำเป็นที่จะดำเนินการ รวมทั้งยังต้องเดินหน้าในการช่วยเหลือสังคมในนามของมูลนิธิ ซึ่งยังคงต้องพึ่งพาจิตศรัทธาผู้คนทุกภาคส่วนในการร่วมบุญกุศลเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
