ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนขับรถยนต์เก๋งถูกปาหินใส่เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติมคู่กรณี ข้อหาหนัก “พยายามฆ่าโดยมีการไตร่ตรองไว้ก่อน” ยืนยันไม่ได้ขับรถปาดหน้าคู่กรณีคาดเกิดจากความเข้าใจผิด ส่วนการด่าทอคู่กรณีตนไม่ได้ทำ สาเหตุที่พุ่งรถออกไปเพราะกลัวถูกทำร้าย
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (4 พ.ค.) ที่ สภ.เมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายจตุพร กันภัย อายุ 25 ปี เจ้าของรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 5271 ภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากกรณีถูก นายอนุชา ยีมูดา ขว้างก้อนหินใส่รถจนเป็นเหตุให้รถเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนน ส่งผลให้ภรรยา คือ น.ส.สุนิษา คงดำแก้ว อายุ 25 ปี ซึ่งนั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ ขาซ้าย และแขนขวาหัก เหตุเกิดบริเวณถนนเทพกระษัตรี (ขาออก) ตรงข้ามปากซอยแหลมหินซีฟู้ด ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ได้เข้าพบ พ.ต.ท.เฉลียว ท้ายฮู้ สว. (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมญาติ และลูกสาว เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมขอแจ้งข้อหาเพิ่มต่อ นายอนุชา ผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายในการซ่อมแซมรถเนื่องจากประกันไม่รับผิดชอบ รวมถึงกรณีที่ น.ส.สุนิษา คงดำแก้ว ภรรยาได้รับบาดเจ็บ ต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวเป็นเวลานาน
นายจตุพร กันภัย อายุ 25 ปี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ตนไม่ได้เป็นผู้เริ่มก่อน และไม่ได้ขับปาดหน้ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดกัน โดยคู่กรณีได้บีบแตรใส่รถของตน และขับตามมา ซึ่งตอนนั้นตนคิดว่าบีบแตรใส่รถคันอื่น จนกระทั่งมาถึงบริเวณปากทางเข้าซอยแหลมหิน ขณะจะเลี้ยวเข้าซอย พบว่า คู่กรณีไม่ยอม ตนจึงหยุดรถพร้อมกับกวักมือเรียกให้มาคุยกัน คู่กรณีก็ได้หยุดรถพร้อมกับถือหมวกกันน็อกเดินมาหาที่รถด้วย ตอนนั้นตนรู้สึกกลัวว่าจะถูกทำร้าย จึงรีบขับรถออกไป และไม่ได้ตะโกนออกมาข่มขู่คู่กรณีตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยตอนแรกคิดว่าจะขับรถกลับบ้านเลย
แต่เมื่อเลี้ยวรถที่บริเวณจุดยูเทิร์นข้างหน้าห่างจากจุดที่จอดรถประมาณ 300 เมตร ตนเห็นว่าคู่กรณีไม่ได้ขับรถตามมาแล้วจึงได้ขับรถกลับไปตามถนนเทพกระษัตรีอีกครั้ง เพื่อไปทานข้าวกับเพื่อนตามที่ได้นัดหมายไว้ที่ร้านแหลมหิน แต่ระหว่างที่กำลังขับรถมาโดยไม่คาดคิดก็เห็นว่าคู่กรณีได้เดินข้ามถนนม าและภายในมือถือก้อนหินขนาดใหญ่มาด้วย และขว้างเข้าใส่รถตนทันที ทำให้ตนตกใจ และพยายามหักหลบแต่รถเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าดังกล่าว
เมื่อเวลา 16.30 น. วันนี้ (4 พ.ค.) ที่ สภ.เมืองภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายจตุพร กันภัย อายุ 25 ปี เจ้าของรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ 5271 ภูเก็ต ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากกรณีถูก นายอนุชา ยีมูดา ขว้างก้อนหินใส่รถจนเป็นเหตุให้รถเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนน ส่งผลให้ภรรยา คือ น.ส.สุนิษา คงดำแก้ว อายุ 25 ปี ซึ่งนั่งมาด้วยได้รับบาดเจ็บ ขาซ้าย และแขนขวาหัก เหตุเกิดบริเวณถนนเทพกระษัตรี (ขาออก) ตรงข้ามปากซอยแหลมหินซีฟู้ด ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ได้เข้าพบ พ.ต.ท.เฉลียว ท้ายฮู้ สว. (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต พร้อมญาติ และลูกสาว เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมขอแจ้งข้อหาเพิ่มต่อ นายอนุชา ผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายในการซ่อมแซมรถเนื่องจากประกันไม่รับผิดชอบ รวมถึงกรณีที่ น.ส.สุนิษา คงดำแก้ว ภรรยาได้รับบาดเจ็บ ต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวเป็นเวลานาน
นายจตุพร กันภัย อายุ 25 ปี เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ตนไม่ได้เป็นผู้เริ่มก่อน และไม่ได้ขับปาดหน้ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิดกัน โดยคู่กรณีได้บีบแตรใส่รถของตน และขับตามมา ซึ่งตอนนั้นตนคิดว่าบีบแตรใส่รถคันอื่น จนกระทั่งมาถึงบริเวณปากทางเข้าซอยแหลมหิน ขณะจะเลี้ยวเข้าซอย พบว่า คู่กรณีไม่ยอม ตนจึงหยุดรถพร้อมกับกวักมือเรียกให้มาคุยกัน คู่กรณีก็ได้หยุดรถพร้อมกับถือหมวกกันน็อกเดินมาหาที่รถด้วย ตอนนั้นตนรู้สึกกลัวว่าจะถูกทำร้าย จึงรีบขับรถออกไป และไม่ได้ตะโกนออกมาข่มขู่คู่กรณีตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด โดยตอนแรกคิดว่าจะขับรถกลับบ้านเลย
แต่เมื่อเลี้ยวรถที่บริเวณจุดยูเทิร์นข้างหน้าห่างจากจุดที่จอดรถประมาณ 300 เมตร ตนเห็นว่าคู่กรณีไม่ได้ขับรถตามมาแล้วจึงได้ขับรถกลับไปตามถนนเทพกระษัตรีอีกครั้ง เพื่อไปทานข้าวกับเพื่อนตามที่ได้นัดหมายไว้ที่ร้านแหลมหิน แต่ระหว่างที่กำลังขับรถมาโดยไม่คาดคิดก็เห็นว่าคู่กรณีได้เดินข้ามถนนม าและภายในมือถือก้อนหินขนาดใหญ่มาด้วย และขว้างเข้าใส่รถตนทันที ทำให้ตนตกใจ และพยายามหักหลบแต่รถเสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าดังกล่าว
