ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจกองปราบ จับ 2 หัวโจกแก๊งควายอยู่ในบัญชีอับดับ 1 ที่กองปราบต้องการตัวมากที่สุด หลังมีการท้าทายให้จับ ก่อนพบมีหมายจับติดตัวเพียบจากการหลอกเหยื่อสูญเงินรายละ 5-10 ล้านบาท ก่อนจนมุมที่ จ.ชุมพร ขณะกำลังวางแผนหลอกเหยื่ออีกราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (29 เม.ย.) ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม จับกุม นายวิมล นิลละเอียด อายุ 54 ปี ชาว ต.นาโพธิ์ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช (เสื้อเชิ้ต) และนายสุภาพ หรือสมศักดิ์ เสือสงค์ อายุ 68 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามหมายจับคดีฉ้อโกงของ สภ.ระโนด จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2557
ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นระดับหัวหน้าแก๊งควายอันดับ 1 ที่ตำรวจกองปราบปรามต้องการตัวมากที่สุด หลังจากหลอกต้มตุ่นเหยื่อแต่ละรายสูญเงิน 5-10 ล้านบาท และหมุนเวียนก่อเหตุในหลายจังหวัดของภาคใต้ ก่อนที่จะจนมุมตำรวจกองปราบปราม ซึ่งสืบสวนแกะรอยติดตามจับกุมได้ที่ร้านอาหารริมถนนเลียบหาดแหลมแท่น ต.ชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร ก่อนที่จะควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ประสานงานกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ซึ่งทั้ง 2 คนได้เคยพูดท้าทายผู้กำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจกองปราบ ให้จับให้ได้ผ่านสมาชิกแก๊งควายด้วยกัน
จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ทั้ง 2 คน ถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกงหลายคดี โดยเฉพาะ นายวิมล มีหมายจับติดตัว 8 หมายจับ และล้วนเป็นคดีฉ้อโกงทรัพย์ทั้งสิ้น ตั้งแต่ปี 2556-2558 ทั้งในพื้นที่ จ.กระบี่ สงขลา สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วน นายสุภาพ มีหมายจับ 2 หมายจับ คดีใน จ.สงขลา และ จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ ร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอม โดยระหว่างที่ถูกจับกุมได้นั้นกำลังร่วมกับพวกวางแผนหลอกลวงเหยื่อรายหนึ่งอยู่ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ริมหาดแหลมแท่น แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
สำหรับ นายวิมล และนายสุภาพ ถูกจับกุมตามหมายจับคดีฉ้อโกงของ สภ.ระโนด จงสงขลา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2557 หลังจากร่วมกับพวกอีก 3 คน ทำทีไปขอเช่าที่ดินเพื่อติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือกับผู้เสียหายรายหนึ่ง ในพื้นที่ ม.1 ต.ท่าบอน อ.ระโนด จ.สงขลา โดยให้ค่าเช่าราคาสูง และได้ออกอุบายให้ผู้เสียหายไปคุยรายละเอียดกับเสี่ย ซึ่งก็คือ นายสุภาพ นั่นเองที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง
จากนั้นจึงชักชวนให้เล่นการพนันกำถั่วจนสูญเงินไป 1 ล้านบาท และยังออกอุบายให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพของ น.ส.สุทธินี พักต์จันทร์ อีก 3 ล้าน 1 แสน 5 หมื่นบาท เหยื่อหลงเชื่อจึงสูญเงินไปทั้งสิ้น 4 ล้าน 1 แสน 5 หมื่นบาท และแก๊งควายกลุ่มนี้จะเลือกก่อเหตุเฉพาะเหยื่อที่มีฐานะ หรือผู้ที่ประกาศขายที่ดิน ก่อนที่จะเข้าไปตีสนิท และหลอกเหยื่อให้เล่นการพนันจนสูญเงินหมดรายละนับล้านบาท
