ตำรวจกองปราบปรามรวบ “แก๊งควาย” เดินสายต้มตุ๋น ทำทีเช่าที่ดิน ก่อนชักชวนเหยื่อเล่นกำถั่วสูญเงิน 13 ล้าน เผยเป็นแก๊งใหญ่มีผู้ร่วมขบวนการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 300 คน
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.วัฒนชัย มณฑีรรัตน์ รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ธราดล เหมพัฒน์ พนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ชลสิทธิ์ เทียมทัต สว.กก.6 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม นายณรงค์ศักดิ์ หรืออ้วน สมิทจิตต์ อาย 47 ปี หนึ่งในสมาชิกแก๊งควาย อยู่บ้านเลขที่ 409/6 ถนนศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ.1198/2557 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2557 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมถนนสายเอเชีย กม.ที่ 47 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ญถ 1327 กรุงเทพมหานคร เตรียมออกไปหลอกลวงเหยื่อในพื้นที่ดังกล่าว
พล.ต.ต.อัคราเดชกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปี 2556-2557 นายธีระ ถาวร อายุ 55 ปี ชาว จ.ภูเก็ต หัวหน้าแก๊งควายที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ได้ร่วมกับพวกหลอกลวงผู้เสียหายโดยทำทีเข้ามาติดต่อซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งที่ดินซึ่งมีการประกาศขายเอาไว้ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศโดยเฉพาะในภาคใต้ จากนั้นก็จะนัดพบเพื่อตกลงจ่ายเงินมัดหรือทำสัญญาซื้อขาย แต่ระหว่างนั้นก็จะหลอกลวงเหยื่อเล่นพนันกำถั่วจนผู้เสียหายต้องสูญเงินไปเป็นจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 13 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายณรงค์ศักดิ์เป็นหนึ่งในแก๊งสมาชิกจึงวางแผนเข้าจับกุมดังกล่าว
สอบสวนนายณรงค์ศักดิ์ให้การปฏิเสธว่า เป็นเพียงผู้เปิดบัญชีธนาคารที่ถูกนำมาใช้ในการรับโอนเงินจากผู้เสียหายเท่านั้น โดยได้เงินส่วนแบ่งร้อยละ 10 ของเงินที่เหยื่อโอนมา โดยที่ผ่านมาได้รับเงินมาไม่ถึง 2 แสนบาท อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเหยื่อมาเล่นพนันกำถั่วแต่อย่างใด ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแก๊งควายซึ่งถูกติดตามจับกุมตัวในครั้งนี้มีผู้ร่วมขบวนการหลอกลวงเหยื่อมากกว่า 10 ราย มีการแบ่งหน้าที่กัน โดยขณะนี้ยังคงมีผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีอีก 3 ราย ส่วนแก๊งต้มตุ๋นที่มีพฤติการณ์ออกอุบายหลอกลวงเหยื่อมาเล่นพนันในลักษณะนี้จนต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากนั้นมีอยู่ประมาณ 80 แก๊งทั่วประเทศ มีผู้ร่วมขบวนการหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 300 คน ทางตำรวจ บก.ป.ได้เร่งสืบสวนขยายผลติดตามดำเนินคดีแล้ว