สุราษฎร์ธานี - ศพนักดำน้ำกู้ชีพกู้ภัยโผล่ขึ้นเหนือน้ำในช่วงสายของวันนี้ หลังประมาณ 10 นาที ที่บิดาพูดว่า หากลูกไม่ขึ้นมาพ่อขอกลับบ้านก่อนนะ สร้างความตกตะลึงแก่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนคนขับเรือยังไม่พบเบาะแส
จากกรณีที่นักประดาน้ำมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เข้าค้นหาผู้สูญหายจากอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวชนเรือชาวบ้านที่กำลังลากจูงไม้ไผ่ภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา จนเป็นเหตุให้นายประจิตร สายเสมา อายุ 69 ปี จมน้ำหายไป ภายหลังเกิดเหตุไม่คาดฝันชุดประดาน้ำ 4 ราย ลงไปค้นหาแต่เกิดเชือกผูกทุ่นหลุดทำให้นักประดาน้ำโผล่จากน้ำ 3 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะแรงกดอากาศ และมี นายชยุตม์ ทิพย์ชิต สูญหายไป 1 คนเช่นกัน การระดมค้นหาเป็นอย่างต่อเนื่องเป็น 4 วัน แต่ยังคงไร้วี่แววเบาะแสของผู้สูญหายทั้ง 2 ราย
ความคืบหน้าในการค้นหา วันที่ 6 (28 เม.ย.) ตั้งแต่เช้าครอบครัว และญาติได้ร่วมกันจุดธูปขอขมาพระแม่คงคา และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเปิดทางเปิดตา ก่อนที่ชุดค้นหาจะดำเนินการลงไปดำค้นหาใต้น้ำ แต่ก่อนที่จะมีการลงดำน้ำในเวลา 10.20 น. นายวัฒน์ ทิพย์ชิต บิดาของนายชยุตม์ ทิพย์ชิต ได้พูดออกมาว่า หากลูกไม่ขึ้นมาพ่อขอกลับบ้านก่อนนะ หลังจากนั้น ประมาณ 10 นาที เมื่อจู่ๆ ศพของ นายชยุตม์ ได้ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ โดยนายวัฒน์ เป็นผู้พบเห็นเป็นคนแรก สร้างความดีใจ และความแปลกใจให้แก่ครอบครัว และทีมค้นหาที่อยู่เหตุการณ์ยิ่งนัก
โดยจุดที่ศพลอยขึ้นห่างจากจุดเกิดเหตุเรือชนกันประมาณ 15 เมตร มาทางทิศตะวันออก แต่การค้นหาตลอดทั้ง 5 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ดำค้นในจุดดังกล่าวมาตลอดแต่กลับไม่พบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งโรงพยาบาลบ้านตาขุน เพื่อตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการชีวิตต่อไป ส่วนร่าง นายประจิตร ยังไม่พบเบาะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้พยายามทำการค้นหาต่อไป