สุราษฎร์ธานี - เริ่มค้นหาใหม่วันนี้ผู้สูญหายจากเหตุเรือชนในเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ฯ และนักประดาน้ำ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อคนขับเรือหางยาวรับส่งนักท่องเที่ยวที่ชนเรือลากไม้ไผ่ จนเป็นเหตุให้มีผู้สูญหาย 1 คน และได้รับบาดเจ็บ 1 คน
สำหรับการค้นหาผู้สูญหายจากกรณีเรือรับส่งนักท่องเที่ยวชนเรือเสตท (เรือหาปลา) ขณะลากแพไม้ไผ่ส่งให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายในเขื่อนรัชชประภา เป็นเหตุให้ นายประกิจ สายเสมา อายุ 69 ปี คนขับเรือจมน้ำสูญหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และในเวลาต่อมา ได้เกิดเหตุนักประดาน้ำจากมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ที่เข้าดำเนินการค้นหาผู้สูญหายรายแรกกลับประสบอุบัติเหตุสูญหายไปอีก 1 ราย ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา และขณะนี้การค้นหาร่างของผู้สูญหายทั้ง 2 ราย ยังไร้วี่แวว
นายอวยชัย อินนาค รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งลงพื้นที่อำนวยการค้นหาร่างผู้สูญหายทั้ง 2 ราย กล่าวว่า จากการระดมกำลังนักดำน้ำที่มีความเชี่ยวชาญในการดำน้ำลึกจากทั้งจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถเริ่มดำน้ำค้นหาได้ในเวลา 16.00 น วานนี้ (24 เม.ย.) ซึ่งการค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก โดยใช้เวลาในการค้นหากว่า 3 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด และได้สั่งให้ยุติการค้นหาในเวลา 19.00 น. อย่างไรก็ตาม สำหรับวันนี้ (25 เม.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังในการค้นหาใหม่โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยมีนักดำน้ำจากเกาะเต่า และทีมดำน้ำจากจังหวัดกาญจนบุรี เข้าเสริมอีกจำนวนกว่า 50 คน ซึ่งจะพยายามค้นร่างผู้สูญหายให้ได้โดยเร็ว
ขณะที่ นายพีรวัส เกตุกรรณ์ หรือครูกร ผู้เชี่ยวชาญดำน้ำลึก หัวหน้าชุดการค้นหาใต้น้ำ กล่าวว่า การค้นหาร่างของผู้สูญหายเป็นไปด้วยความลำบาก บริเวณที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยซากต้นไม้ลดหลั่นเป็นชั้นๆ จำเป็นใช้เวลามาก และสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายทุกวินาที
ส่วนด้านคดีความนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน นายวีระยุทธ ศรัทธาสุข อายุ 24 ปี แล้ว และเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อคนขับเรือหางยาว ในข้อหาขับเรือด้วยความประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
ส่วนบรรยากาศการค้นหามี ญาติพี่น้องผู้สูญหายมาเฝ้าติดตามการค้นหาด้วยอาการเศร้าสลดต่อเหตุเหตุดังกล่าวจำนวนมาก โดยเฉพาะ นายวัฒน์ ทิพย์ชิต บิดาของนายชยุตม์ อาสาสมัครดักประดาน้ำที่สูญหายขณะลงไปดำน้ำค้นหาร่างของคนขับเรือ
สำหรับการค้นหาผู้สูญหายจากกรณีเรือรับส่งนักท่องเที่ยวชนเรือเสตท (เรือหาปลา) ขณะลากแพไม้ไผ่ส่งให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายในเขื่อนรัชชประภา เป็นเหตุให้ นายประกิจ สายเสมา อายุ 69 ปี คนขับเรือจมน้ำสูญหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และในเวลาต่อมา ได้เกิดเหตุนักประดาน้ำจากมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ที่เข้าดำเนินการค้นหาผู้สูญหายรายแรกกลับประสบอุบัติเหตุสูญหายไปอีก 1 ราย ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา และขณะนี้การค้นหาร่างของผู้สูญหายทั้ง 2 ราย ยังไร้วี่แวว
นายอวยชัย อินนาค รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งลงพื้นที่อำนวยการค้นหาร่างผู้สูญหายทั้ง 2 ราย กล่าวว่า จากการระดมกำลังนักดำน้ำที่มีความเชี่ยวชาญในการดำน้ำลึกจากทั้งจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถเริ่มดำน้ำค้นหาได้ในเวลา 16.00 น วานนี้ (24 เม.ย.) ซึ่งการค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก โดยใช้เวลาในการค้นหากว่า 3 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด และได้สั่งให้ยุติการค้นหาในเวลา 19.00 น. อย่างไรก็ตาม สำหรับวันนี้ (25 เม.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังในการค้นหาใหม่โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. โดยมีนักดำน้ำจากเกาะเต่า และทีมดำน้ำจากจังหวัดกาญจนบุรี เข้าเสริมอีกจำนวนกว่า 50 คน ซึ่งจะพยายามค้นร่างผู้สูญหายให้ได้โดยเร็ว
ขณะที่ นายพีรวัส เกตุกรรณ์ หรือครูกร ผู้เชี่ยวชาญดำน้ำลึก หัวหน้าชุดการค้นหาใต้น้ำ กล่าวว่า การค้นหาร่างของผู้สูญหายเป็นไปด้วยความลำบาก บริเวณที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยซากต้นไม้ลดหลั่นเป็นชั้นๆ จำเป็นใช้เวลามาก และสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายทุกวินาที
ส่วนด้านคดีความนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน นายวีระยุทธ ศรัทธาสุข อายุ 24 ปี แล้ว และเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อคนขับเรือหางยาว ในข้อหาขับเรือด้วยความประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
ส่วนบรรยากาศการค้นหามี ญาติพี่น้องผู้สูญหายมาเฝ้าติดตามการค้นหาด้วยอาการเศร้าสลดต่อเหตุเหตุดังกล่าวจำนวนมาก โดยเฉพาะ นายวัฒน์ ทิพย์ชิต บิดาของนายชยุตม์ อาสาสมัครดักประดาน้ำที่สูญหายขณะลงไปดำน้ำค้นหาร่างของคนขับเรือ