xs
xsm
sm
md
lg

รองผู้ว่าฯ ภูเก็ตแจงรื้อรุกหาดเลพัง ทำตามกฎหมาย ด้านเจ้าของร้านชี้รัฐทำไม่ถูกยันอยู่ในที่ น.ส.3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ตั้งโต๊ะแถลงยืนยันการเข้ารื้อถอนร้านค้ารุกหาดสาธารณะเลพัง-ลายัน เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระบุการก่อสร้างอาคารไม่ได้รับอนุญาต ที่ผ่านมา ทาง อบต.เชิงทะเล ได้สั่งให้ระงับการใช้อาคารไปแล้วตั้งแต่ปี 2557 แต่ผู้ครอบครองก็ยังเพิกเฉย ด้านเจ้าของร้านยันรัฐทำไม่ถูกไม่ปิดประกาศแจ้งให้ทราบ ขณะที่ตัวร้านอยู่ในที่มีเอกสารสิทธิ น.ส.3

เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (27 เม.ย.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ นายอำเภอถลาง นายยงยุทธ กาญจนานุรักษ์ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง และนายมาแอ่น สำราญ นายก อบต.เชิงทะเล ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการรื้อร้านค้าที่สร้างรุกหาดสาธารณะในพื้นที่หาดลายัน-หาดเลพัง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะการรื้อร้าน ร้านโทนี่ ซีฟู้ด ซึ่งได้ดำเนินการในช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่า ในพื้นที่หาดลายัน ต่อเนื่องถึงหาดเลพัง มีร้านค้าที่สร้างบุกรุกที่สาธารณะ จำนวน 10 ร้าน ซึ่งเข้าข่ายที่จะต้องรื้อถอนเพื่อจัดระเบียบชายหาด ตามนโบาย คสช.ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557

ซึ่งการการแถลงข่าวในครั้งนี้เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียได้เข้าใจถึงข้อกฎหมาย ว่า การเข้าดำเนินการรื้อถอนดังกล่าวดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ เพราะพื้นที่ดังกล่าวนั้นเป็นที่สาธารณะ และการก่อสร้างอาคารนั้นก็ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น เพราะไม่สามารถที่จะอนุญาตได้ ส่วนที่บอกว่า มีการไปร้องต่อศาลปกครองนั้นก็ยังไม่ได้เข้ากระบวนการพิจารณาของศาล รวมทั้งในการร้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชนั้น ศาลก็รับเพียงข้อเดียว คือ การร้องนายก อบต.เชิงทะเล กรณีทางร้านยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างอาคารแต่ ทาง อบต.ไม่ตอบรับคำยื่น และไม่ให้เหตุผลใดๆ ซึ่งก็ว่ากันตามขั้นตอน ส่วนอีก 2 ข้อนั้นก็ยกไป กรณีการอ้างเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ก็เช่นกัน จากการตรวจสอบพบว่า เอกสารดังกล่าวได้ถูกเพิกถอนไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน 2523 รวมทั้งขณะนี้ได้อยู่ในขั้นตอนของการประกาศเป็นหนังสือสำคัญที่หลวง หรือ นสล.

นายโชคดี ยังได้กล่าวย้ำว่า การดำเนินการต่อร้านอาหารแห่งนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และใช้เวลาพอสมควร ทั้งๆ ที่ทาง อบต.เชิงทะเล ได้สั่งให้ระงับการใช้อาคารไปแล้วตั้งแต่ปี 2557 แต่ผู้ครอบครองก็ยังเพิกเฉย จนมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาอย่างรอบคอบจนครบตามกระบวนการ จึงต้องเข้าทำการรื้อถอน เพราะหากไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะทำให้การดำเนินการที่ผ่านมาล้มเหลวทั้งหมด และจะไม่สามารถตอบคำถามในส่วนที่รื้อไปแล้วก่อนหน้านี้ได้ เพราะที่ผ่านมา ก็มีการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่บุกรุกพื้นที่ชายหาดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ร้านค้า โดยส่วนนี้เป็นส่วนที่เหลือเนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย แต่เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการเรียบร้อยก็ต้องดำเนินการต่อเพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

ขณะที่ นายมาแอน สำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวก่อนหน้านี้ ว่า การเข้ารื้อถอนร้านอาหารบริเวณหาดเลพัง-ลายัน ในครั้งนี้ มีทั้งหมด10 ร้าน แต่วันนี้จะทำการรื้อถอนแค่ 8 ร้าน เนื่องจากอีก 2 ร้านอยู่ระหว่างการร้องศาลปกครอง ต้องรออีกประมาณ 30 วัน สำหรับพื้นที่ทั้งหมดมี จำนวน 178 ไร่ หลังรื้อถอนเสร็จสิ้นจะปรับเป็นชายหาดสาธารณะให้ประชาชนใช้ร่วมกัน และขณะนี้อยู่ระหว่างที่จังหวัดดำเนินการขอออกที่ดินทั้งหมดเป็นที่ดิน นสล.ต่อไป

ด้าน นายกนกพล สมรักษ์ เจ้าของร้านโทนี่ ซีฟู้ด กล่าวว่า การเข้ามาทำการรื้อถอนอาหารของเจ้าหน้าที่นี้ครั้งนี้เป็นการดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอน เพราะไม่ได้ปิดประกาศให้ผู้ครอบครองอาคารได้รับทราบ และเตรียมตัวในการนำทรัพย์สินออกจากอาคาร เหมือนกับที่มีการปิดประกาศก่อนที่จะทำการรื้อถอนในพื้นที่อื่นๆ โดยก่อนหน้านี้ ในปี 2557 ได้สร้างร้านอยู่บริเวณหน้าชายหาด ก็ได้มีการรื้อถอนไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้น ก็ได้ขยับมาอยู่ในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิถูกต้องเป็น น.ส.3 ก. เลขที่ 1363 เนื้อที่ประมาณ 14 ไร่ และที่ผ่านมา ก็ได้มีการยื่นขออนุญาตเพื่อก่อสร้างอาคารแล้ว แต่ทาง อบต.เชิงทะเล ได้อ้างว่ามีเอกสารบางส่วนหายไป

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า พื้นที่บริเวณที่ตั้งร้านเป็นที่สาธารณะ และได้ประกาศเป็น นสล.แล้วนั้น อยากทราบเหมือนกันว่า ประกาศเมื่อใด สำหรับการดำเนินการหลังจากนี้ก็จะต้องมีการพูดคุยกันในหุ้นส่วนทั้งหมด เพราะเมื่อร้านถูกรื้อไปแล้วก็ทำให้พนักงานของร้านซึ่งมีร่วม 60 คน ได้รับความเดือดร้อนไปด้วย ก็ต้องหาวิธีการช่วยเหลือต่อไป และการดำเนินการในครั้งนี้ทำให้ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอให้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วยเหลือด้วยตามนโยบายคืนความสุขให้แก่ประชาชน

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น