xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งต้มตุ๋นหลอกเงินพ่อเฒ่าวัย 70 ปี ลวงแบ่งกำไรจากซื้อขายที่ดินให้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ชุมพร - รวบแก๊งต้มตุ๋นหลอกพ่อเฒ่าวัย 70 ปี ลวงซื้อขายที่ดินเชิดเงินล้านหลบหนี โชคดีดีตำรวจตามจับได้ทัน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 เม.ย.59 พ.ต.ต.ภักดี ตันอนุกูล สารวัตรสอบสวน สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งความจาก นายเริ่ม ใจจง อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 หมู่ที่ 13 ตำบลละแม อ.ละแมจ.ชุมพร ว่า มีแก๊งต้มตุ๋นมาหลอกลวงเป็นผู้ชาย 1 คน และผู้หญิง 1 คน ให้นำเงิน จำนวน 1 ล้านบาท มาไถ่ถอนที่ดินแล้วขับรถเก๋งเชิดเงินหนีไป

นายเริ่ม ให้การว่า ตนมีอาชีพทำสวนปาล์ม และเป็น กก.ตร.สภ.ละแม อ.ละแม โดยเมื่อ 4 วันก่อน มีผู้หญิงวัยกลางคนตามบัตรประชาชนชื่อ นางณสมนต์ แมงทับ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/14 หมู่ 15 ตำบลบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ทำทีมาถามซื้อที่ดินของตนโดยมากัน 2 คน ส่วนผู้ชายอยู่ในรถเก๋งคันที่ใช้ก่อเหตุ โดยบอกว่า จะขอซื้อที่ดินให้แก่หลานสาวซึ่งมีสามีเป็นฝรั่งอยู่ที่กรุงเทพฯ และตกลงซื้อขายในราคา 6 ล้านบาท และจะนัดโอนในวันจันทร์หน้า ต่อมา เช้าวันนี้ นางณสมนต์ ได้ขับรถเก๋งโตโยต้าอัลติส สีน้ำเงิน ทะเบียน กธ 4753 นนทบุรี มาหาตนที่บ้านโดยมีชายวัยกลางชื่อเล่น “พงษ์” เป็นคนขับ และบอกว่า จะให้ช่วยติดต่อซื้อขายที่ดินของนายสมาน ที่อยู่ใกล้เคียงกัน จำนวน 22 ไร่ ในราคาไร่ละ 700,000 บาท โดยจะได้กำไรจากการเป็นนายหน้า จำนวน 5 ล้านบาท และเสนอค่านายหน้าจำนวนเงิน 1 ล้านบาทให้ตน โดยแก๊งดังกล่าวอ้างว่า ติดปัญหาอยู่ที่โฉนดที่ดินของนายสมาน ติดจำนองอยู่กับพ่อค้ารับซื้อยางพาราที่อำเภอหลังสวน จำนวน 1,800,000 บาท แต่นางณสมนต์ มีเงินแค่ 800,000 บาท จึงได้พยามเกลี้ยกล่อมให้ตนช่วยออกเงินที่เหลือ 1 ล้านบาทก่อน เมื่อขายได้จะคืนให้พร้อมเงินค่านายหน้า
 
ตนจึงตอบตกลง และนั่งรถเก๋งไปเบิกเงินที่ธนาคารออมสิน สาขาละแม จำนวน 1 ล้านบาท กับนางณสมนต์ โดยตนเป็นผู้ถือเงินสดนั่งมาในรถเก๋ง และตนมาสงสัยในพฤติกรรมช่วงระหว่างทางทั้งคู่พยายามหลอกให้ตนลงจากรถถึง 2 หน ครั้งแรกจอดรถที่โรงพยาบาลหลังสวนบอกว่าจะเข้าไปเยี่ยมญาติที่ป่วย ครั้งที่ 2 ไปจอดรถถ่ายเอกสาร โดยทั้ง 2 ครั้ง ทั้ง 2 คนพยายามคะยั้นคะยอจะให้ตนลงจากรถเก๋ง แต่ตนไม่ยอมลงโดยให้เหตุผลมีเงินอยู่ตั้ง 1 ล้านบาท เลยไม่กล้าลง ต่อมาสักพัก ก็มีผู้หญิงวัยกลางคนนำเงินมายื่นให้แก่นายพงษ์ และนางณสมนต์ บอกว่า เป็นค่ามัดจำ จำนวน 500,000 บาท สักพักทั้งคู่อ้างว่าจะขอไปเบิกเงินที่เพื่อนโอนมาให้อีก 500,000 บาท ที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาหลังสวน และได้จอดรถที่บริเวณใกล้ๆ กับธนาคาร ระหว่างที่ตนนั่งรออยู่ในรถนั้นตนจึงได้วางกระเป๋าเงิน และเอกสารไว้ที่ในรถ และลงไปสูบบุหรี่ที่ริมถนน จังหวะนั้นทั้งคู่ได้รีบมาขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ตนรู้ว่าถูกหลอกแน่จึงรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำตำรวจดังกล่าว

ต่อมา ศูนย์วิทยุได้รับแจ้งจาก ร.ต.ท.ประชา อรชุน และ ร.ต.อ.เจียรศักดิ์ ยินดี รอง สวป.สภ.หลังสวน ว่า พบรถต้องสงสัยจอดอยู่ที่ทางเข้าสวนปาล์ม หมู่ที่ 5 ตำบลวังตะกอ และควบคุมตัวไว้ 1 คน เป็นผู้หญิง ส่วนผู้ชายที่ชื่อ พงษ์ ขณะที่ตำรวจเข้าตรวจสอบกำลังสับเปลี่ยนป้ายทะเบียนปลอมที่เตรียมมา และเมื่อเห็นตำรวจก็วิ่งหนีเข้าไปในสวนปาล์ม ส่วนนางณสมนต์ นั่งอยู่ในรถ และเมื่อเห็นนายเริ่ม ผู้เสียหายไปชี้ตัวยืนยันถึงกับร้องไห้ และยกมือไหว้ไม่ให้เอาเรื่อง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในรถพบเงินถูกแบ่งใสซองสีน้ำตาล จำนวน 2 ซอง ซองละ 500,000 บาท รวม 1,000,000 บาท และมีเงินปลอมอีก จำนวน 500,000 บาท โดยใช้แบงก์จริงวางปิดไว้ด้านหน้า และด้านหลังส่วนข้างในเป็นแบงก์กาโม่

จากการสอบสวนเบื้องต้น ด้าน นางณสมนต์ ให้การปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ตนมาเป็นเพื่อน นายพงษ์ เท่านั้น และให้การวกวนไปมา แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่ออีกทั้งยังไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตำรวจ จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ส่วนนายพงษ์ ผู้ต้องหาที่หลบหนีตำรวจได้สนธิกำลังไล่ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น