ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ต ประชุมปฐมนิเทศโครงการ ครั้งที่ 1 งานสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว หวังแก้ปัญหาการจราจรของจังหวัดภูเก็ต
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมปฐมนิเทศโครงการงานสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว โดยมี นายไพศาล สุวรรณรัตน์ วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ (ผู้จัดการโครงการ) นายอัศวิน กรรณสูต ที่ปรึกษากรมทางหลวงด้านสำรวจและออกแบบ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกเข้าร่วม
นายไพศาล สุวรรณรัตน์ วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ (ผู้จัดการโครงการ) กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง แต่เนื่องจากข้อจำกัดของเส้นทางในการเดินทางเข้าสู่พื้นที่มีทางหลักทางเดียว คือ ทางหลวงหมายเลข 402 จึงทำให้ประชาชน และผู้มาเยือนต่างเข้ามาใช้ในเส้นทางดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จนเกินขีดความสามารถในการรองรับ และก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ส่งผลให้การเดินทางจากสนามบิน หรือฝั่งแผ่นดินใหญ่ไปสู่แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงเมืองภูเก็ตต้องใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทางบางส่วนเลี่ยงไปใช้โครงข่ายทางหลวงสายรองที่มีสภาพคดเคี้ยว และผ่านแหล่งชุมชนหนาแน่น เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบนเส้นทางอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว การพิจารณาก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว จะเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และยังเป็นการขยายพื้นที่ทางเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมา ภาครัฐได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง จังหวัดภูเก็ต เพื่อแก้ไข และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งโครงการทางหลวงแนวใหม่ สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว ได้ถูกจัดให้เขียนโครงการหนึ่งของแผนแม่บทดังกล่าว และได้ทำการศึกษาความเหมาะสมในเบื้องต้นเป็นที่แล้วเสร็จ
ซึ่งผลจากการศึกษาสรุปได้ว่า โครงการมีความเหมาะสม และคุ้มค่าต่อการลงทุน รวมทั้งมีศักยภาพในการลดปัญหาการจราจรติดขัด ตลอดจนมีศักยภาพในการขยายพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อจํากัดตลอดแนวเส้นทางของโครงการเบื้องต้น พบว่า แนวเส้นทางโครงการผ่านลุ่มน้ำชั้น 2 ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว และอยู่ใกล้โบราณสถานที่มีความสำคัญจึงเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดประเภทและขนาดของโครงการ หรือกิจการซึ่งจะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ เพื่อขอรับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนินโครงการ
นายไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การพัฒนาโครงการทางหลวงแนวใหม่ สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร มีความสมบูรณ์ทางด้านวิศวกร มีความปลอดภัยในการเดินทาง มีความสะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่าย และก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่โครงการน้อยที่สุด กรมทางหลวง จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาประกอบด้วย บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท พรี ดีเวลลอปเมนท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ให้ดำเนินการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงใหม่ สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร โดยมีระยะเวลาการดำเนินการ 450 วัน
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมปฐมนิเทศโครงการงานสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงแนวใหม่สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว โดยมี นายไพศาล สุวรรณรัตน์ วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ (ผู้จัดการโครงการ) นายอัศวิน กรรณสูต ที่ปรึกษากรมทางหลวงด้านสำรวจและออกแบบ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกเข้าร่วม
นายไพศาล สุวรรณรัตน์ วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ (ผู้จัดการโครงการ) กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ และมีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง แต่เนื่องจากข้อจำกัดของเส้นทางในการเดินทางเข้าสู่พื้นที่มีทางหลักทางเดียว คือ ทางหลวงหมายเลข 402 จึงทำให้ประชาชน และผู้มาเยือนต่างเข้ามาใช้ในเส้นทางดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จนเกินขีดความสามารถในการรองรับ และก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด ส่งผลให้การเดินทางจากสนามบิน หรือฝั่งแผ่นดินใหญ่ไปสู่แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงเมืองภูเก็ตต้องใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนาน ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทางบางส่วนเลี่ยงไปใช้โครงข่ายทางหลวงสายรองที่มีสภาพคดเคี้ยว และผ่านแหล่งชุมชนหนาแน่น เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบนเส้นทางอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว การพิจารณาก่อสร้างทางหลวงแนวใหม่สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว จะเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และยังเป็นการขยายพื้นที่ทางเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมา ภาครัฐได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายทางหลวง จังหวัดภูเก็ต เพื่อแก้ไข และบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนทางหลวงหมายเลข 402 ซึ่งโครงการทางหลวงแนวใหม่ สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว ได้ถูกจัดให้เขียนโครงการหนึ่งของแผนแม่บทดังกล่าว และได้ทำการศึกษาความเหมาะสมในเบื้องต้นเป็นที่แล้วเสร็จ
ซึ่งผลจากการศึกษาสรุปได้ว่า โครงการมีความเหมาะสม และคุ้มค่าต่อการลงทุน รวมทั้งมีศักยภาพในการลดปัญหาการจราจรติดขัด ตลอดจนมีศักยภาพในการขยายพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อจํากัดตลอดแนวเส้นทางของโครงการเบื้องต้น พบว่า แนวเส้นทางโครงการผ่านลุ่มน้ำชั้น 2 ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว และอยู่ใกล้โบราณสถานที่มีความสำคัญจึงเข้าข่ายต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดประเภทและขนาดของโครงการ หรือกิจการซึ่งจะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ เพื่อขอรับความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนินโครงการ
นายไพศาล กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การพัฒนาโครงการทางหลวงแนวใหม่ สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร มีความสมบูรณ์ทางด้านวิศวกร มีความปลอดภัยในการเดินทาง มีความสะดวกสบาย ประหยัดค่าใช้จ่าย และก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่โครงการน้อยที่สุด กรมทางหลวง จึงได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาประกอบด้วย บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท พรี ดีเวลลอปเมนท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ให้ดำเนินการสำรวจและออกแบบทางหลวง 4 ช่องจราจร ทางหลวงใหม่ สาย บ.สาคู-บ.เกาะแก้ว จังหวัดภูเก็ต ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร โดยมีระยะเวลาการดำเนินการ 450 วัน