ยะลา - นักโทษเรือนจำกลางยะลา ก่อเหตุทะเลาะวิวาทยกพวกตีกัน เจ้าหน้าที่เจรจานานร่วมชั่วโมงจนคลี่คลายสถานการณ์ได้ มีนักโทษชายได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุด่วน สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา ได้รับแจ้งจากเรือนจำกลางยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ว่า ได้เกิดเหตุนักโทษชายภายในเรือนจำกลางยะลา จำนวนหลายร้อยคนก่อเหตุทะเลาะวิวาท และยกพวกรุมทำร้ายร่างกายกัน จึงประสานวิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร พร้อมด้วยมูลนิธิกู้ภัยเข้าสนับสนุนในที่เกิดเหตุ
หลังรับแจ้ง นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 16 จำนวนเกือบ 50 นาย เดินทางเข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุ
โดยเมื่อถึงบริเวณเรือนจำกลางยะลา ได้ยินเสียงนักโทษภายในเรือนจำตะโกนโห่ร้องออกมาจากภายในเรือนจำ พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเรือนจำ นำโดย นายวัชรวิทย์ วชิรเลอพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องกระจายเสียงเจรจาทำความเข้าใจต่อนักโทษภายในเรือนจำ โดยให้นักโทษทุกคนขึ้นเรือนนอนของตนเอง พร้อมกับได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปนำตัวนักโทษชายที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกาย จำนวน 1 ราย ออกจากภายในเรือนจำ เพื่อนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลยะลา
ขณะที่ข้างนอกเรือนจำนั้นมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรึงกำลังบริเวณโดยรอบเรือนจำ เนื่องจากเกรงว่า ทางนักโทษชายจะใช้โอกาสในช่วงชุลมุนหลบหนีออกจากเรือนจำ หลังจากทางเจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บออกจากภายในเรือนจำกลางยะลา และส่งไปยังโรงพยาบาลยะลาแล้ว ก็ได้เจรจากับนักโทษผ่านเครื่องกระจายเสียงนานกว่า 1 ชั่วโมง นักโทษชายจึงได้แยกย้ายกลับเข้าเรือนนอนของตนเอง ทำให้เหตุการณ์คลี่คลายลงไปได้ด้วยดี
นายวัชรวิทย์ วชิรเลอพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา ได้รายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ว่า สาเหตุเกิดจากการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักโทษ จำนวน 2 กลุ่มด้วยกันคือ นักโทษที่มาใหม่ กับนักโทษเก่า จนเกิดการเขม่นกัน และทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันขึ้น และมีกลุ่มที่สนับสนุนที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ เรือนจำกลางยะลา มีนักโทษที่ถูกควบคุมตัวในคดีต่างๆ รวมประมาณ 1,900 คน และวันนี้อยู่ในช่วงวันหยุด เจ้าหน้าที่รักษาการก็หยุดตามวาระปกติ เหลือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่ 12 คน จึงได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเข้าสนับสนุนช่วยเหลือทันทีเพื่อป้องกันเหตุร้าย
