พังงา - ตำรวจทางหลวง ซ้อนแผนจับช่างเสริมสวยให้สินบน 1 แสนบาท หลังถูกจับใบกระท่อม 54 กก.
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่สถานีตำรวจทางหลวงพังงา ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา พ.ต.ต.ธรรมศักดิ์ พลเดช สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงพังงา พร้อมด้วย ร.ต.อ.วินัย สายคุ้ม ด.ต.กฤต แก้วศรีอ่อน ด.ต.เกรียงศักดิ์ แป้นช่วย ด.ต.สฤชัย ฤกขะวุฒิกุล และ ด.ต.ชัยพงศ์ วานิชาชีวะ ได้ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัว น.ส.จิรัฐกัณ ศูณย์คล้าย อายุ 35 ปี อาชีพช่างเสริมสวย อยู่บ้านเลขที่ 134/3 ถ.สัจจกุล ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมด้วยของกลาง ใบกระท่อมสด จำนวน 54 กิโลกรัม รถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน กค 8805 สตูล และนายสมปอง กาเกตุ อายุ 34 ปี อาชีพขับเรือนำเที่ยวในอ่าวพังงา อยู่บ้านเลขที่ 24/6 ม.1 ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 100,000 บาท โดยแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดประเภทที่ 5 (ใบกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และข้อหาร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน
โดยเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ตั้งจุดตรวจบนถนนสายทับปุด-พังงา บริเวณใกล้ศูนย์ราชการจังหวัดพังงาแห่งใหม่ ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา ได้มีรถยนต์เก๋งของกลางขับมาจากพื้นที่อำเภอทับปุด เข้าสู่ตัวเมืองพังงา ขณะจะถึงจุดตรวจประมาณ100 เมตร คนขับรถคันดังกล่าวทำพฤติกรรมน่าสงสัยด้วยการเลี้ยวกลับรถกลับไปทาง อ.ทับปุด อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ติดตามประมาณ 5 กิโลเมตร จนไปทันกัน และสั่งหยุดรถเพื่อตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบใบกระท่อมสดวางอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในตัวรถ รวมน้ำหนัก 54 กิโลกรัม จึงควบคุมตัวมายังสถานี และขณะที่ทำบันทึกการจับกุมอยู่ น.ส.จิรัฐกัณ ได้ยอมรับว่า ซื้อใบกระท่อมดังกล่าวมาจากพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ในราคากิโลกรัมละ 850 บาท ส่งให้ลูกค้าในจังหวัดพังงา กิโลกรัมละ 1,200 บาท และผู้ต้องหาได้ต่อรองกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมโดยเสนอเงิน จำนวน 100,000 บาท เพื่อแลกต่อการที่ไม่ต้องถูกจับ เจ้าหน้าที่จึงรายงานให้สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงรับทราบ และซ้อนแผนเพื่อจับกุมต่อไป
โดยให้ผู้ต้องหาโทรศัพท์ติดต่อกับ นายเกียรติศักดิ์ ดำมา ซึ่งเป็นสามีอยู่ที่จังหวัดพัทลุง โอนเงินให้ญาติในจังหวัดพังงา เพื่อจ่ายค่าสินบน หลังจากนั้น ประมาณ 3 ชั่วโมง ได้มีนายสมปอง กาเกตุ ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมกับนำเงินสด จำนวน 100,000 บาท ยื่นให้เจ้าหน้าที่พร้อมกับบอกว่า เป็นค่าเคลียร์ไม่ให้ญาติถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัว พร้อมแจ้งให้ทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่สถานีตำรวจทางหลวงพังงา ต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา พ.ต.ต.ธรรมศักดิ์ พลเดช สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงพังงา พร้อมด้วย ร.ต.อ.วินัย สายคุ้ม ด.ต.กฤต แก้วศรีอ่อน ด.ต.เกรียงศักดิ์ แป้นช่วย ด.ต.สฤชัย ฤกขะวุฒิกุล และ ด.ต.ชัยพงศ์ วานิชาชีวะ ได้ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัว น.ส.จิรัฐกัณ ศูณย์คล้าย อายุ 35 ปี อาชีพช่างเสริมสวย อยู่บ้านเลขที่ 134/3 ถ.สัจจกุล ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมด้วยของกลาง ใบกระท่อมสด จำนวน 54 กิโลกรัม รถยนต์เก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน กค 8805 สตูล และนายสมปอง กาเกตุ อายุ 34 ปี อาชีพขับเรือนำเที่ยวในอ่าวพังงา อยู่บ้านเลขที่ 24/6 ม.1 ต.เกาะปันหยี อ.เมืองพังงา พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 100,000 บาท โดยแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดประเภทที่ 5 (ใบกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และข้อหาร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน
โดยเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ตั้งจุดตรวจบนถนนสายทับปุด-พังงา บริเวณใกล้ศูนย์ราชการจังหวัดพังงาแห่งใหม่ ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา ได้มีรถยนต์เก๋งของกลางขับมาจากพื้นที่อำเภอทับปุด เข้าสู่ตัวเมืองพังงา ขณะจะถึงจุดตรวจประมาณ100 เมตร คนขับรถคันดังกล่าวทำพฤติกรรมน่าสงสัยด้วยการเลี้ยวกลับรถกลับไปทาง อ.ทับปุด อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ติดตามประมาณ 5 กิโลเมตร จนไปทันกัน และสั่งหยุดรถเพื่อตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบใบกระท่อมสดวางอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในตัวรถ รวมน้ำหนัก 54 กิโลกรัม จึงควบคุมตัวมายังสถานี และขณะที่ทำบันทึกการจับกุมอยู่ น.ส.จิรัฐกัณ ได้ยอมรับว่า ซื้อใบกระท่อมดังกล่าวมาจากพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ในราคากิโลกรัมละ 850 บาท ส่งให้ลูกค้าในจังหวัดพังงา กิโลกรัมละ 1,200 บาท และผู้ต้องหาได้ต่อรองกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมโดยเสนอเงิน จำนวน 100,000 บาท เพื่อแลกต่อการที่ไม่ต้องถูกจับ เจ้าหน้าที่จึงรายงานให้สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงรับทราบ และซ้อนแผนเพื่อจับกุมต่อไป
โดยให้ผู้ต้องหาโทรศัพท์ติดต่อกับ นายเกียรติศักดิ์ ดำมา ซึ่งเป็นสามีอยู่ที่จังหวัดพัทลุง โอนเงินให้ญาติในจังหวัดพังงา เพื่อจ่ายค่าสินบน หลังจากนั้น ประมาณ 3 ชั่วโมง ได้มีนายสมปอง กาเกตุ ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมกับนำเงินสด จำนวน 100,000 บาท ยื่นให้เจ้าหน้าที่พร้อมกับบอกว่า เป็นค่าเคลียร์ไม่ให้ญาติถูกจับกุม เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัว พร้อมแจ้งให้ทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานร่วมกันให้สินบนเจ้าพนักงาน