MGR Online - ผบช.ก.พร้อม ตร.รถไฟ โชว์ผลงานชิ้นโบแดง รวบขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติล็อตมหึมาบนขบวนรถไฟ กทม.-ปาดังเบซาร์ ล็อกชาวมาเลย์ 15 คน ยึดยาไอซ์ 226 กก. เฮโรอีน 8 กก. มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ผู้ต้องหารับมีคนไทยเป็นนายจ้างได้ห่อละ 5,000 บาท อ้างไม่รู้เป็นยาเสพติด
วันนี้ (24 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนังค์ บุรานนท์ พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบก.รฟ. รรท.ผบก.รฟ. และตำรวจรถไฟ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการการค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวมาเลเซีย จำนวน 15 คน โดยมีนายงอร์ เคียนยิว (NGOR KIEN YEW) สัญชาติมาเลเซีย รับเป็นหัวหน้าขบวนการ โดยยึดของกลางยาไอซ์น้ำหนัก 226 กก. และเฮโรฮีนน้ำหนัก 8 กก. ทั้งหมดบรรจุหีบห่ออย่างดีใส่ในเป้สะพายหลัง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท หากส่งออกไปประเทศที่ 3 จะมีมูลค่าสูงกว่าสิบเท่า
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกตำรวจรถไฟจับกุมได้ระหว่างโดยสารด้วยขบวนรถไฟด่วนพิเศษระหว่างประเทศที่ 35 กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ หลังรับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านทางรถไฟจากสถานีรถไฟหัวลำโพงไปยังประเทศมาเลเซีย จึงกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งเวลา 17.00 น.วันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ด.ต.สันติ ปานดำรงค์ และ ด.ต.นุกูล ปาโต ผบ.หมู่ ส.รฟ.หาดใหญ่ กก.3 บก.รฟ. เจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟประจำขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ ที่ 35 กรุงเทพฯ-ปาดังเดซาร์ ได้พบผู้ต้องสงสัยทราบชื่อต่อมา คือ นายมูฮัมหมัด ไอซามุดดิน บิน อับ ราซัค (Muhammad Aisamuddin bin Abd razak) และนายแมซเนแซม บิน มานัป (Mazenesam bin manap) ชาวมาเลเซีย มีท่าทีพิรุธจึงขอตรวจค้นเป้สะพายหลัง พบยาไอซ์น้ำหนัก 34 กก. และเฮโรอีน 1.5 กก. จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาลงที่สถานีรถไฟราชบุรี
จากนั้นขยายผลเข้าจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน ได้แก่ นายคามาลุดิน บิน ซาร์จู (Kamaludin bin sarju), นายนาบิล ซยาฟีค บิน คาเมล (Nabil Syafiq Bin Kamal) และนายอีดริส ซยารีฟ บิน ซยาริฟัดดิน (Idris syarif bin syarifuddin) ชาวมาเลเซีย ยึดยาไอซ์ 23 กก. ควบคุมตัวลงที่สถานีรถไฟหัวหิน จากนั้นควบคุมตัวนายเคนนี ลิม ไว เหลียง (Kenny lim wei liang), นายวูน มิง เช็ง (woon Ming sheng), นายตัน ชาต เฟม (tan chat phem), นายยัป ชุน แมน (yap chun man), นายงอร์ เคียน ยิว (ngor kien yew), นายหลิว โปว สวี (liew pow swee) และนายเซห์ ชิน วี (seah chin wee) ชาวมาเลเซีย ยึดยาไอซ์ 74 กก. ควบคุมตัวลงที่สถานีรถไฟประจวบคีรีขันธ์
ต่อมาจับกุมตัวนายหว่อง คาห์ เซ็ง (Wong kah seng), นายหลู ชี เอค (Loo chee aik) และนายโฮ ไว ไฮ (Ho wai hai) ชาวมาเลเซีย 3 คน ยึดยาไอซ์ 44 กก.ควบคุมตัวลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้มีการจับกุมยาไอซ์น้ำหนัก 54 กก. และเฮโรอีนน้ำหนัก 4.8 กก.ลงที่สถานีรถไฟชุมพร เบื้องต้นแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ และเฮโรอีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ขบวนการค้าเสพติดรายนี้ถือเป็นขบวนการใหญ่ที่สุดที่ตำรวจสอบสวนกลางจับกุมได้ จากข้อมูลการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการลักลอบนำยาเสพติดล็อตนี้มาจากภาคเหนือเพื่อลำเลียงมาพักที่ กทม.ก่อนลำเลียงต่อลงทางภาคใต้โดยใช้เส้นทางขบวนรถไฟและมีจุดหมายปลายทางที่ประเทศมาเลเซีย หลังจากนี้ตำรวจจะร่วมกับตำรวจมาเลเชียในการตรวจสอบประวัติและขยายผลจับกุมขบวนการที่เหลือ เชื่อว่าจะมีคนไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย สำหรับของกลางยาเสพติดล็อตนี้หากหลุดลอดออกไปนอกจากจะขายในมาเลเซียแล้วเชื่อว่าจะถูกส่งไปยังประเทศแถบยุโรปด้วย
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดที่เข้มข้นตามเส้นทางหลัก มีการใช้กล้องไลเซนส์เพจตรวจสอบทะเบียนรถ ขบวนการลำเลียงยาเสพติดจึงได้มีการเปลี่ยนเส้นทางมาใช้รถไฟในการลำเลียงยาเสพติด ตนจึงสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดบูรณาการในการสกัดกั้น โดยตำรวจท่องเที่ยวสกัดกั้นทางอากาศ ตำรวจทางหลวงสกัดกั้นเส้นทาง ส่วนทางเรือเป็นความรับผิดชอบของ ตำรวจน้ำ
มีรายงานว่าจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาบางรายเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์บินตรงมาลงที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ขณะที่บางรายพบข้อมูลว่าเดินทางเข้ามาทางด่านสะเดา จ.สงขลา แต่ทุกคนมานัดพบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ เพื่อมารับของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่ามีคนไทยเป็นผู้ว่าจ้าง ขณะที่บางรายระบุว่ารับว่าได้รับการว่าจ้างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ค่าจ้างห่อละ 5,000 บาท ทั้งหมดอ้างว่าไม่รู้ว่าของที่ให้ลำเลียงเป็นยาเสพติด อย่างไรก็ตาม บางคนพบตั๋วรถไฟเชียงใหม่-กทม. จึงเชื่อว่ามีการลำเลียงยาเสพติดล็อตนี้ทางรถไฟมาจากเชียงใหม่มาเปลี่ยนรถไฟที่ กทม.
อีกรายตำรวจทางหลวงสามารถจับกุมกัญชาอัดแท่งน้ำหนัก 73 กก. โดยจับกุมขณะตั้งด่านตรวจบริเวณถนนมิตรภาพ จ.สระบุรี ขณะที่ทางหลวงชุมพรตั้งด่านตรวจบนถนนเพชรเกษม สามารถจับกุมกัญชาอัดแท่งน้ำหนัก 64 กก. พร้อมผู้ต้องหาชาวไทย 1 ราย ขณะเตรียมส่งไปขายในพื้นที่ภาคใต้