ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภัยแล้งส่งผลแหล่งน้ำดิบเทศบาลนครภูเก็ต บริเวณสวนหลวง ร.9 แห้งขอด กระทบประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ ขณะที่อีก 70% ของพื้นที่ไม่มีปัญหาน้ำประปาขาดแคลน สามารถดูแลกระทั่งพ้นหน้าแล้งนี้ไปได้
นายถาวร จิรพัฒนโสภณ รองนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำดิบในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ไม่มีปัญหาน้ำประปา เชื่อสามารถดูแลกระทั่งพ้นหน้าแล้งนี้ไปได้ โดยมีปริมาณน้ำที่ใช้เฉลี่ย 30,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ในจำนวนผู้บริโภค 20,000 กว่าราย
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีโซนพื้นที่ที่คาดว่าน้ำจะไหลน้อย หรือไม่ไหลเลย คือ บริเวณหมู่บ้านเจ้าฟ้า และโซนบริเวณสวนหลวง เนื่องจากว่าแหล่งน้ำดิบที่บริเวณสวนหลวง ร.9 ปัจจุบันได้แห้งขอดเกือบหมดแล้ว และนอกจากนี้ ยังมีบริเวณถนนบางกอง ถนนพูนผล และถนนศักดิเดชด้วย ที่จะประสบปัญหาน้ำประปาไม่ไหล ปกติโซนถนนศักดิเดช ทางเทศบาลจะซื้อน้ำจากการประปามาเสริม แต่เนื่องจากการประปาได้สงวนน้ำไว้ จึงทำให้โซนถนนศักดิเดชมีปัญหา อีกส่วนหนึ่งบริเวณที่อยู่บนเขารัง ด้านถนนแม่หลวน อาจจะขาดมาก และตอนนี้ทางเทศบาลกำลังแก้ปัญหาด้วยการแบ่งน้ำจากในเขตเมืองบางส่วนเข้าไป แต่ก็ไม่แน่ใจว่าแบ่งไปแล้วกำลังน้ำจะสามารถขึ้นไปได้หรือไม่ ซึ่งยังอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่ถ้ากำลังน้ำส่งไปไม่ถึงก็จะแก้ปัญหาด้วยการใช้รถดับเพลิงนำน้ำเข้าไปช่วยเหลือ ทั้งนี้ พื้นที่ที่มีปัญหาทั้งหมดมีความต้องการใช้น้ำประมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ส่วนพื้นที่ที่อยู่นอกเขตเทศบาลนครภูเก็ต อย่างเช่น หมู่บ้านเจ้าฟ้า ตอนนี้เทศบาลตำบลวิชิต ได้เข้าไปช่วยเหลือ และในส่วนของเทศบาลนครภูเก็ตเองก็มีงานป้องกันไปช่วยสนับสนุนเรื่องน้ำ
“สำหรับขุมน้ำที่อยู่ในความดูแลของเทศบาลนครภูเก็ต มีจำนวน 2 ขุม คือ ขุมน้ำที่สามกอง และขุมน้ำที่สวนหลวง ส่วนที่เหลือจะเป็นขุมน้ำของเอกชน คือ ขุมน้ำอนุภาษณ์ กะทู้ และแหล่งน้ำดิบที่ใหญ่ที่สุดคือ เขื่อนบางวาด อ.กะทู้ ที่เทศบาลนำมาใช้ผลิตน้ำประปาให้แก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งนี้ ดูปริมาณน้ำในเขื่อนบางวาด และจากปริมาณน้ำขุมน้ำของเทศบาลนครภูเก็ต คิดว่าสามารถอยู่ได้จนถึงเดือนมิถุนายนนี้ คือ โซนที่เราใช้น้ำจากเขื่อนบางวาด กับขุมน้ำของเทศบาลที่สามกอง คิดว่าในส่วนที่เราดูแลไม่น่าจะมีปัญหา สามารถดูแลได้ตลอด แต่มีปัญหาโซนที่ต้องใช้น้ำจากสวนหลวง” นายถาวร กล่าวในที่สุด
