อุตรดิตถ์ - ตามส่องชีวิตตำรวจนาอินกลางภัยแล้งจนแทบไม่มีน้ำอาบมานานเป็นเดือนสองเดือน ล่าสุดต้องให้นักการภารโรงตระเวนขอสูบน้ำจากบ่อชาวบ้านมาเติมห้องน้ำ ห้องส้วมวันละ 3 เวลา ทุกวัน
วันนี้ (10 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตกเป็นข่าวตำรวจ สภ.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เขตติดต่อกับจังหวัดพิษณุโลก ประสบกับภัยแล้งแบบสาหัสสากรรจ์ บางครั้งต้องอาบน้ำแบบวันเว้นวันกันมานานหลายเดือน และต้องขอน้ำจากชาวบ้านมาใช้ในการประกอบอาหาร-เติมห้องน้ำ ห้องส้วมให้บริการประชาชนนั้น
นายพิษณะ คณะใน อายุ 43 ปี นักการภารโรง สภ.นาอิน ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ บอกว่า ทุกวันต้องนำรถยนต์ส่วนตัวพร้อมถังน้ำขนาด 200 ลิตร จำนวน 5 ถัง ไปขอสูบน้ำจากบ่อน้ำตื้นของชาวบ้านเพื่อนำมาเติมถังเก็บน้ำในห้องน้ำห้องส้วม สภ.นาอิน เพื่อให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการใช้ โดยต้องทำอย่างนี้ทุกวันนานกว่าเดือนเศษแล้ว
“แต่ละวันจะนำน้ำมาเติมในห้องน้ำที่โรงพัก 3 เวลา คือ เช้า กลางวัน และเย็น เมื่อเสร็จแล้วก็จะนำน้ำไปเติมถังน้ำให้กับตำรวจ สภ.นาอิน ที่ร้องขอมา”
นายพิษณะบอกว่า ทำหน้าที่นักการภารโรงมา 23 ปีแล้วยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย ปีนี้ถือว่าแล้งสุดแล้ว ต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า ทุกเช้าจะต้องนำรถยนต์ส่วนตัวออกไปขอน้ำจากชาวบ้าน โดยช่วยค่าไฟฟ้าถัง 200 ลิตร 10 บาท ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง สารวัตรใหญ่ (สวญ.) นาอิน เป็นผู้สนับสนุนให้ ถ้ารอน้ำประปาก็คงไม่ได้อาบน้ำ เพราะน้ำประปาจะไหลก็ราว 22.00 น.เศษ ซึ่งเป็นเวลานอนกันแล้ว จึงต้องช่วยเหลือตัวเองทุกทาง
ตำรวจ สภ.นาอินนายหนึ่งกล่าวว่า ปกติก็อาบน้ำทุกวัน แต่ช่วงเดือนสองเดือนมานี้ก็ต้องประหยัดน้ำให้มากที่สุดเพราะน้ำประปาไม่ไหล จึงต้องขอให้นักการภารโรงที่ไปขอน้ำจากประชาชนแบ่งมาเก็บไว้ในห้องน้ำที่ห้องพักบ้าง เพื่อใช้ล้างผัก ล้างจาน ซักผ้า และชำระภารกิจส่วนตัวในห้องส้วมเป็นหลัก ถ้ามีน้ำเหลือก็จะอาบน้ำก่อนนอน แต่ต้องราดน้ำพอให้ยาสระผม และสบู่ที่ฟอกไปออกจากตัว และอาบได้เพียงรอบเดียวไม่สามารถอาบรอบสองได้
“ช่วงเช้าหากมีน้ำเหลือจากช่วงเย็น หรือหากน้ำประปาไหลพอ ก็ได้อาบน้ำก่อนทำงาน หากไม่เหลือก็ล้างหน้าแปรงฟันเท่านั้น ดีที่การแต่งเครื่องแบบกลางวันก็แต่งครึ่งท่อนเพราะอากาศร้อน ประชาชนก็เห็นใจไม่มองว่าแต่งกายไม่เหมาะสม”
พ.ต.ท.จีระพงศ์ ชุมภูอินทร์ สารวัตรใหญ่ (สวญ.) นาอิน กล่าวว่า สภ.นาอินมีข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่จำนวน 31 นาย รวมทั้งครอบครัวที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ภายในโรงพักเกือบ 100 ชีวิต ตั้งแต่เข้าสู่ช่วงฤดูแล้งต้องเผชิญกับการขาดน้ำมานานหลายเดือนแล้ว
พ.ต.ท.จีระพงศ์กล่าวว่า น้ำประปาที่ใช้ในโรงพักก็อาศัยได้ใช้กับประชาชน แต่ขณะนี้ก็เริ่มไหลบ้างไม่ไหลบ้างแล้ว ตำรวจต้องเอาถังน้ำใส่หลังรถไปขอน้ำจากบ่อน้ำตื้นของชาวบ้านมาใช้ ส่วนน้ำที่ใช้บนโรงพักเพื่อให้บริการประชาชนก็ให้นักการภารโรงนำถังไปสูบน้ำจากบ่อน้ำตื้นของชาวบ้านที่ยังพอมีใช้อยู่บ้าง
พ.ต.ท.จีระพงศ์บอกว่า ต.นาอิน และ ต.นายาง เป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งหนักสุดของ จ.อุตรดิตถ์ อยู่ห่างไกลความเจริญ เขตติดต่อกับ จ.พิษณุโลก ประชาชนส่วนใหญ่สามารถทำนาได้เพียงปีละครั้ง ซึ่งต้องรอน้ำจากฝนตกเพียงอย่างเดียว อาชีพของประชาชนส่วนใหญ่จึงทำการปศุสัตว์ และรับจ้าง
ส่วนการช่วยเหลือภัยแล้งนั้น หน่วยทหาร และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาอินนำรถบรรทุกน้ำไปบรรทุกน้ำจากในเมืองอุตรดิตถ์มาให้การช่วยเหลือ บางครั้งช่วยไม่ทัน ชาวบ้านและตำรวจก็ช่วยเหลือตัวเอง
สวญ.สภ.นาอินกล่าวอีกว่า การออกมาพูดเช่นนี้ไม่ได้ต้องการทำลายภาพลักษณ์ของตำรวจ สภ.นาอิน หรือตำรวจทั้งประเทศว่าไม่อาบน้ำแล้วไปปฏิบัติหน้าที่บริการประชาชน แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าความเดือดร้อนและความทุกข์ยากของตำรวจ และประชาชนที่ ต.นาอินนั้นสาหัสและยากแค้นเพียงใด เป็นเรื่องที่ควรจะต้องให้การดูแลและช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ เพราะน้ำคือปัจจัยหลักสำคัญที่สุดในการดำรงชีวิต
อย่างไรก็ตาม แม้จะขาดน้ำแต่ชาวนาอินก็ไม่ได้แย่งชิงน้ำกัน เพราะทุกคนเข้าใจว่า ต่างก็เดือดร้อนเช่นเดียวกัน ความรักสามัคคี และการร่วมมือกันระหว่างตำรวจ ท้องถิ่น และชุมชน จึงทำให้เกิดเรื่องดีๆ ขึ้นใน ต.นาอิน