xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ พัทลุงลดราคากลางประมูลรังนกเหลือ 275 ล้าน ไล่รองผู้ว่าฯ-นายก อบจ.ออกจากห้องประชุมขณะลงมติโหวต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
พัทลุง - ผู้ว่าฯ พัทลุง ลดราคาประมูลรังนกอีแอ่นจากเดิม 450 ล้าน เหลือเพียง 275 ล้าน โดยไล่รองผู้ว่าฯ พร้อมนายก อบจ.ออกจากห้องประชุมในระหว่างยกมือโหวตราคากลาง ขณะที่ท้องถิ่นออกติงผู้ว่าฯ ไม่ปกป้องผลประโยชน์ให้แก่ชาวพัทลุง แต่กลับปกป้องผลประโยชน์ให้แก่บริษัทอย่างมีนัย

วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯ พัทลุง ในฐานะประธานกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง เป็นประธานการประชุมกรรมการรังนกอีแอ่น พร้อมกรรมการที่ปรึกษาพิจารณาปรับลดราคากลางการประมูลจัดเก็บรังนกอีแอ่นรอบใหม่ ซึ่งคณะกรรมการได้มีมติกำหนดราคากลางการประมูลจัดเก็บรังนกเป็นเวลา 5 ปี เป็นเงิน 450 ล้านบาท แต่การยื่นซองประมูลราคาด้วยวิธีพิเศษที่ผ่านมามีผู้ยื่นซองเพียง 1 ราย และเสนอราคา จำนวน 280 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคากลาง ทำให้ทางคณะกรรมการต้องยกเลิกการประมูล และมีการกำหนดราคากลางขึ้นมาใหม่ โดยกรรมการส่วนหนึ่งได้เสนอให้ยืนตามราคาเดิม 450 ล้านบาท แต่ส่วนหนึ่งเสนอให้ปรับลดจาก 450 ล้านบาท เหลือราคากลาง จำนวน 275 ล้านบาท 

โดยเมื่อมีการเสนอราคากลางไม่ตรงกัน ทางผู้ว่าฯ จ.พัทลุง ในฐานะประธานกรรมการ ได้สั่งให้ นายสุรินทร์ เพชรสังข์ รองผู้ว่าฯ จ.พัทลุง และนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุงในฐานะกรรมการที่ปรึกษารังนกอีแอ่นออกจากห้องประชุม เนื่องจากกรรมการจะต้องโหวตเสียงลงมติ ซึ่งกรรมการที่ปรึกษาไม่มีสิทธิที่จะลงคะแนนจึงสั่งให้ออกจากห้องประชุม ทำให้รองผู้ว่าฯ จ.พัทลุง และนายก อบจ.พัทลุง ในฐานะกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการรังนกอีแอ่น ต้องลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุม ทั้งที่การลงมติก็ใช้วิธียกมืออย่างเปิดเผยไม่จำเป็นที่จะต้องสั่งให้กรรมการที่ปรึกษาออกจากห้องประชุมก็ได้
 

 
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการจัดเก็บรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง กล่าวถึงกรณีที่ผู้ว่าฯ จ.พัทลุงในฐานะประธานกรรมการรังนกอีแอ่น จ.พัทลุง สั่งให้กรรมการที่ปรึกษาซึ่งเป็นรองผู้ว่าฯ จ.พัทลุงและนายก อบจ.พัทลุง ออกจากห้องประชุม แม้ว่ากรรมการบางคนต้องการให้ที่ปรึกษานั่งในห้องประชุมด้วยเพราะเป็นการประชุมที่เปิดเผย แต่ผู้ว่าฯ จ.พัทลุง ก็ยังสั่งให้ออกจากห้อง ส่วนการโหวตเสียงลงมตินั้น มีกรรมการโหวตเสียงให้ยืนราคากลางที่ 450 ล้านบาท จำนวน 5 เสียง และให้ปรับลดราคากลางจาก 450 ล้านบาท เหลือราคากลาง จำนวน 275 ล้านบาท จำนวน 5 เสียงเท่ากัน นายวินัย บัวประดิษฐ์ ประธานกรรมการจึงต้องใช้สิทธิลงคะแนนสนับสนุนให้ปรับลดราคากลางให้เหลือ 275 ล้านบาท ซึ่งกรรมการฝ่ายที่เสนอปรับลดชนะ 6 ต่อ 5 เสียง และทำให้ราคากลางรังนกอีแอ่นหายไปทันที จำนวน 175 ล้านบาท

แหล่งข่าวคนเดิมยังกล่าวอีกว่า การที่กรรมการที่ปรึกษาทั้ง 2 คน ถูกสั่งให้ออกจากห้องประชุมนั้น ทำให้กรรมการบางส่วนไม่พอใจ เพราะทราบกันดีแล้วว่า ที่ปรึกษาทั้ง 2 คน ไม่ว่าจะเป็นรองผู้ว่าฯ จ.พัทลุง และนายก อบจ.พัทลุง ล้วนต้องการให้คงราคากลางไว้ที่ 450 ล้านบาท เพื่อประโยชน์ของชาวพัทลุง แต่กลับไม่ตรงต่อความต้องการของประธานกรรมการที่ต้องการให้ปรับลด เพื่อจะได้ประมูลจัดเก็บรังนกให้แล้วเสร็จ ก่อนที่สัมปทานเก่าจะหมดสัญญาในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้

สำหรับกรรมการที่พยายามจะปรับลดราคากลางนั้น ส่วนหนึ่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นตัวแทนฝ่ายการเมือง แต่ที่ให้ยืนราคากลาง จำนวน 450 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่ต้องการรักษาผลประโยชน์ของชาวพัทลุง ซึ่งต่างกับตัวแทนประชาชนที่ต้องการให้ปรับลดช่วยผู้สัมปทานให้ได้ราคาต่ำ โดยไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม เช่นเดียวกับกรณีที่เสนอให้ประธานที่ประชุมสั่งให้กรรมการที่ปรึกษาทั้ง 2 คน ออกจากห้องประชุม ก็เป็นกรรมการที่เป็นตัวแทน สภา อบจ.พัทลุง ที่ไม่อยากให้นายกนั่งอยู่ในห้องประชุมด้วย
 

 
ด้าน นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการรังนกฯ เปิดเผยว่า รู้สึกผิดหวังต่อการประชุมคณะกรรมการรังนกฯ เพื่อร่วมกันกำหนดราคากลางการยื่นสัมปทานรังนกฯ โดยวิธีพิเศษในครั้งนี้ เนื่องจากการประชุมมีเงื่อนงำที่น่าสงสัยว่าการลงมติการเห็นชอบราคากลางในครั้งนี้ น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังจนทำให้ท้องถิ่นเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล โดยเฉพาะการที่คณะกรรมการรังนกรายหนึ่งได้เสนอให้ตน และ นายสุรินทร์ เพชรสังข์ รองผู้ว่าฯ จ.พัทลุง ออกจากที่ประชุมก่อนที่จะลงคะแนนเสียงเห็นชอบราคากลาง

โดยที่ นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯ จ.พัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการรังนกฯ เห็นชอบนั้น ตนคิดว่าพฤติกรรมของคณะกรรมการคนดังกล่าว และนายวินัย น่าจะไม่เหมาะสมเพราะตน และนายสุรินทร์ รองผู้ว่าฯ จ.พัทลุง ได้ร่วมปรึกษาหารือในการแก้ปัญหาการสัมปทานรังนกกับคณะกรรมการมาโดยตลอด การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการไม่ให้เกียรติผู้นำท้องถิ่น และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดฯ ที่คอยปกป้องดูแลผลประโยชน์ของชาวพัทลุง ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นในการลงมติราคารังนกมาก่อน ตนจึงขอเรียกร้องให้นายวินัย ช่วยชี้แจงต่อชาวพัทลุงว่า ทำไมต้องให้ตน และนายสุรินทร์ รองผู้ว่าฯ จ.พัทลุง ออกจากที่ประชุมด้วย เพราะตนเกรงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะบานปลาย และเกิดความขัดแย้งกันขึ้นระหว่างนายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯ จ.พัทลุง กับตน และนายสุรินทร์ รองผู้ว่าฯ จ.พัทลุง

ในขณะที่ผู้นำท้องถิ่นอย่างเทศบาล และ อบต.หลายรายในพื้นที่ จ.พัทลุง ที่ได้รับผลประโยชน์จากภาษีรังนกปีละหลายสิบล้านบาท ต่างออกมาติงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมระบุว่า แทนที่ผู้ว่าฯ จ.พัทลุง นายวินัย บัวประดิษฐ์ ในฐานะพ่อเมือง แทนที่จะปกป้องผลประโยชน์ให้ชาวพัทลุง กลับปกป้องผลประโยชน์ให้แก่บริษัทอย่างมีนัย เนื่องจากอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าผู้ว่าฯ คนนี้จะเกษียณอายุราชการ และเผาผลประโยชน์ของคนพัทลุงไป
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น