ยะลา - นายกสมาคมสตรีเพื่อสันติภาพ เรียกร้องให้สถานพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดภัย หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ใช้เป็นสถานที่ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ วอนให้ภาครัฐ และผู้คิดต่างทบทวนมาตรการ
วันนี้ (15 มี.ค.) จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายจำนวนไม่ต่ำกว่า 30 คน พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าไปภายในโรงพยาบาลเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และก่อเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจ และหวาดระแวงในความปลอดภัย
น.ส.ปาตีเมาะ เปาะอีแตดาโอะ นายกสมาคมสตรีเพื่อสันติภาพ ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่งที่เดินหน้าเรียกร้องพื้นที่ปลอดภัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาอย่างต่อเนื่อง ได้เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจำเป็นต้องขอความร่วมมือเรียกร้องไปยังทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งทางภาครัฐ และผู้คิดต่างจากรัฐ ซึ่งตามความจริงแล้วการกระทำดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้ง ถึงแม้ในประเทศไทยเองจะยังไม่ระบุว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะยังไม่เป็นพื้นที่ที่เกิดการต่อสู้กันด้วยอาวุธก็ตาม
ซึ่งตามหลักสากลพื้นที่ทั่วโลกที่มีความขัดแย้งก็ยังคงต้องเคารพสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมีกฎ กติกาต่างๆ ที่ควรละเว้นในพื้นที่ของความขัดแย้ง นั่นก็คือ โรงพยาบาล ทั้งบุคลากร ผู้ทำงานด้านการแพทย์ ผู้ป่วยที่รอการรักษา ซึ่งการก่อเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้รับความชอบธรรมจากทั้ง 2 ฝ่าย และประชาชนในพื้นที่เองก็ยอมรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ซึ่งตามความจริงแล้วโรงพยาบาลก็ถือเป็นหนึ่งในข้อการเรียกร้องขอพื้นที่ปลอดภัยมาโดยตลอด จึงอยากจะให้ทั้ง 2 ฝ่าย ได้ทบทวนยุทธศาสตร์ แผนการปฏิบัติการในพื้นที่ความขัดแย้ง ให้มีการละเว้นการก่อเหตุในพื้นที่ทางการแพทย์ สถานพยาบาล โรงพยาบาล ตลาด จนถึงสถานที่ประกอบศาสนกิจทั้ง 2 ศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพุทธ มุสลิม หรือคริสต์ก็ตาม ซึ่งไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นอีก” นายกสมาคมสตรีเพื่อสันติภาพ กล่าว