xs
xsm
sm
md
lg

ยายอายุ 85 ปี ร้องศูนย์ดำรงธรรมระนอง ถูก จนท.ป่าไม้จับในเขตพื้นที่ทับซ้อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ระนอง - ยายวัย 85 ปี บุกศาลากลางระนอง ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม หลังถูก จนท.อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จับกุมในเขตพื้นที่ทับซ้อน ข้อหาตัดโค่นไม้ในเขตป่าสงวน เผยเป็นการรื้อย้ายต้นไม้หลังหักโค่นจากพายุฝนฟ้าคะนอง

วันนี้ (10 มี.ค.) นางประกอบ เพ็งจันทร์ คุณยาย อายุ 85 ปี ชาวบ้านอำเภอละอุ่น อยู่บ้านเลขที่44/6 ม.4 ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยลูกหลานกลุ่มสิทธิชุมชนและเป็นธรรมทางสังคม ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง จำนวนกว่า 30 คน เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดระนอง เพื่อยื่นหนังสือต่อ นายสุริยันต์ กาญจนศิลป ผวจ.ระนอง และร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ระนอง เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จับกุม และร้องทุกข์กล่าวโทษต่อตำรวจ สภ.ละอุ่น จังหวัดระนอง ให้เอาผิดอาญากล่าวหาว่าตนตัดโค่นไม้ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาจากการประกาศเขตพื้นที่ทับซ้อนของเขตอุทยานแห่งชาติ ที่ประกาศเมื่อปี 2542 ทั้งที่ตน และครอบครัวอาศัยอยู่มาตั้งแต่ก่อนการจะมีการประกาศในปี 2516
 

 
ถือเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อผู้ยากไร้ที่ทำกินมาก่อนการประกาศเขตป่า อีกทั้งการกระทำของตนเป็นการรื้อย้ายต้นไม้หลังหักโค่นจากพายุฝนฟ้าคะนอง จึงกระทำการรื้อย้ายเพื่อเปิดทางให้สามารถเข้าไปกรีดยางได้ จึงมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่อุทยานน้ำตกหงาว

นางสิรินยา อุไรวรรณ แกนนำกลุ่มสิทธิชุมชน ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น กล่าวว่า กรณียายประกอบ ได้เข้าบุกเบิกเข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรม หลังการสัมปทานป่าไม้ตั้งแต่ปี 2517 เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ต่อมา ในปี 2530 มีพระราชกฤษฎีกา ประกาศเป็นเขตป่าละอุ่น-ราชกรูด ปี 2536 และ 2541 มีพระราชกฤษฎีกาประกาศเป็นเขตปฏิรูปเพื่อการเกษตรกรรม พื้นที่บางส่วนได้รับสิทธิ ส.ป.ก. ปี 2541 ทาง สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนอง ได้ออกสำรวจข้อมูลเพื่อกันออกพื้นที่ชุมชนก่อนการประกาศเขตอุทยานปี 2542  
 

 
โดยอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว และอุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรีทับพื้นที่ทำกินชุมชน ต่อมา ในปี 2553 จังหวัดระนอง ดำเนินการสำรวจเพื่อพิสูจน์สิทธิตามมติ ครม. 30 มิ.ย.2541 ผลการพิสูจน์สิทธิที่ดิน นางประกอบ เป็นผู้ได้รับการผ่อนผันให้อยู่อาศัยในที่ดินเดิมต่อไปได้ โดยมีเงื่อนไขห้ามบุกรุกขยายพื้นที่เพิ่ม ห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ ห้ามตัดโค่นต้นยางพารา 

ต่อมา ในเดือน ก.ย.2557 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง แรงลมทำให้ต้นยางหักโค่นเสียหายเป็นวงกว้างพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ขวางเกะกะทางเข้าบ้าน นางประกอบ จึงได้ดำเนินการรื้อย้ายไม้ออกเพื่อให้สามารถเข้าไปกรีดยางพาราส่วนที่เหลือได้ จนท.จึงเข้าไปจับกุมจึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมา 

จากนั้น นายพรประสิทธิ์ อิสริยะมงคล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดระนองซึ่งได้รับมอบหมายจาก ผวจ.ระนอง ให้ลงมาเจรจากับกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน และสอบถามไปยังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว เพื่อมารับทราบปัญหา และทราบว่า ทาง หน.อุทยานน้ำตกหงาว ได้ขอเลื่อนการเจรจาออกไปเนื่องจากติดภารกิจราชการอยู่ที่ต่างประเทศ ชาวบ้านที่มาต่างก็รับทราบในการเจรจา และลงบันทึกเรื่องราวร้องทุกข์ไว้ที่ศูนย์ดำรงธรรม จากนั้นได้แยกย้ายกันเดินทางกลับภูมิลำเนา
 

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น