หากใครได้มีโอกาสไปเยือน “เมืองเก่าสงขลา” ทั้งย่าน ถ.นครนอก ถ.นครใน และ ถ.นางงาม ที่เป็นพื้นที่ต่อเนื่องกัน จะเห็นว่าสองข้างถนนทุกสายเต็มไปด้วยร้านอาหารบ้าง ร้านกาแฟบ้าง ซึ่งคอยเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว และคนท้องถิ่นที่ผ่านไปผ่านมา การได้แวะชมและชิมของอร่อย พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศไม่ว่าจะเป็นตึกเก่าๆ รวมถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ถือเป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเชียวแหละ
“เมนูเด็ดแดนใต้” ขอแนะนำร้านกาแฟเท่ๆ ที่มีการผสมผสานระหว่างกาแฟ อาหาร และงานศิลป์ ซึ่งตั้งอยู่บน ถ.นครใน บริเวณหัวมุมที่ตัดกับ ถ.ยะลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นั่นก็คือ…
“บลูสไมล์คาเฟ่ (Blue Smile Café)”
ร้านบลูสไมล์คาเฟ่ เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของสองสามีภรรยา พอล ควินตัน (พอล) กับ นฤชยาย์ สายเชื้อ (เอล) โดยเปิดร้านนี้ขึ้นมาพร้อมสโลแกนที่บอกถึงความเชื่อในสันติภาพและความรัก ถ่ายทอดผ่านกาแฟ อาหาร เบียร์ และงานศิลป์ต่างๆ แบบไม่มีใครเหมือน
ร้านนี้จัดว่าสะดุดตาสำหรับผู้ผ่านไปมาย่านเมืองเก่าสงขลา ด้วยตัวตึกที่เป็นอายุเก่าแก่กว่า 40 ปี แล้วถูกเสริมเติมแต่งด้วยการเพนต์ลายกราฟิตีบนฝาผนังโดยรอบอย่างมีสีสันโดดเด่น แถมภายในยังตกแต่งในสไตล์ Upcycling ที่เน้นนำของเก่านำมามิกซ์แอนด์แมตช์ แล้วผสมผสานความเป็นอินดัสเทรียลลอฟท์ คงไว้ซึ่งกลิ่นอายเก่าๆ อย่างกลมกลืน
บรรยากาศภายในร้านมีทั้งหมด 3 ชั้น ที่ล้วนแล้วแตกต่างกันไป เป็นร้านที่สามารถหาความสุขได้ทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะมุมสบายๆ อย่างที่ชั้นแรกมีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับทำเครื่องดื่มและเบเกอรี่โฮมวีต มีที่นั่งติดหน้าต่างบานใหญ่สีสันฉูดฉาด เมื่อมองออกไปภายนอกสามารถชมวิถีชีวิตของผู้คนย่านเมืองเก่าที่ผ่านไปมาได้อีกด้วย
หากต้องการมุมพักผ่อน อ่านหนังสือ หรือแม้แต่เล่นสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตแล้ว ชั้น 2 ของร้านที่เป็นโซนติดแอร์ลักษณะเหมือนห้องนั่งเล่น บริเวณนี้สามารถให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน หรือหากอยากดื่มด่ำธรรมชาติมีมุมที่ให้สุนทรียภาพกับชีวิตได้เป็นอย่างดีก็ที่ชั้นดาดฟ้า ซึ่งมีที่นั่งให้จิบกาแฟมองวิวตัวเมืองสงขลา รับลมเย็นๆ ที่พัดจากท่าเรือประมงย่านปากทางเข้าออกทะเลสาบสงขลา อันจะทำให้รู้สึกสบายๆ แบบชิลๆ เอามากๆ
สำหรับอาหารคาว และอาหารหวาน รวมไปถึงเครื่องดื่มทั้งร้อน และเย็น ทั้งสไตล์ไทยและต่างประเทศ บลูสไมล์คาเฟ่ มีเมนูให้เลือกสรรมากมายกว่า 100 รายการ ที่พร้อมรอเสิร์ฟแบบสไตล์โฮมเมด โดยเมนูแนะนำควรเริ่มด้วยการรองท้องเบาๆ กับ “พูทีน” เฟรนช์ฟรายสีเหลืองกรอบราดด้วยน้ำเกรวี่แสนอร่อย เสิร์ฟในกระทะสเตนเลส โรยหน้าด้วยชีส และเบคอนทอด จัดเป็นเมนูสีสันน่ารับประทาน และผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะได้รสชาติเป็นเอกลักษณ์ พูดได้เลยว่าเป็นอาหารที่เรียกน้ำย่อยได้ดีเลยทีเดียว
ต่อด้วยอาหารอิตาเลียน อย่าง “พิซซ่า หน้าไส้กรอก BBQ Chicken Sausage” ถาดนี้ขอบอกเลยว่าไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นพิซซ่าแป้งโฮมเมด บางกรอบอร่อย เสิร์ฟพร้อมกับกลิ่นหอมๆ เตะจมูกของซอส โรยหน้าด้วยไส้กรอกหั่นบางๆ แบบเต็มถาด หากใครที่ชอบรับประทานอาหารสไตล์อิตาเลียนก็จะคุ้นชินต่อรสชาติเปรี้ยวของซอส ถือเป็นเมนูที่จะต้องสั่งมาลิ้มลอง
ปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวาน ซึ่งถือเป็นเมนูประจำร้านเลยก็ว่าได้ คือ “วาฟเฟิลบัตเตอร์คานาเดียน น้ำผึ้ง” เสิร์ฟพร้อมกับ “ไอศกรีม” ที่สามารถเลือกรสชาติได้ตามใจชอบ ด้วยแป้งวาฟเฟิลที่หนา แต่นิ่มนั้น เมื่อราดด้วยน้ำผึ้ง และกินคู่กันกับไอศกรีมรสชาติที่ชื่นชอบแล้ว รับรองได้เลยว่าจะติดใจในความอร่อยแบบลงตัวชนิดต้องยกนิ้วให้เป็นพิเศษ
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดหากมีโอกาสเดินทางไปรับประทานอาหาร พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศกันที่ บลูสไมล์คาเฟ่ ระหว่างเวลา 19.15-22.00 น. ของทุกวันศุกร์-เสาร์ ที่นี่จะมีบริการดนตรีสดหลากหลายสไตล์ไว้คอยขับกล่อม มีทั้งดนตรีไทย สากล แจ๊ซ บลูส์ ดาว์บีท และชิลเอาต์ หรือใครจะใช้บรรเลงของเสียงเพลงช่วยย่อยอาหารก็ยังได้
เรียกได้ว่าเป็นร้านที่ใครไม่เคยไปก็น่าจะหาโอกาสไปลองสัมผัสดูบ้างสักครั้ง หากไปแล้วเกิดติดใจจะไปบ่อยๆ ก็ไม่ผิดกติกา สำหรับ ร้านบลูสไมล์คาเฟ่ ย่านเมืองเก่าสงขลา เพราะนอกจากอาหาร และเครื่องดื่มจะอร่อยลิ้นแล้ว บรรยากาศทั้งใน และนอกร้านที่ตกแต่งไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สิ่งเหล่านี้ก็ไม่น่าจะทำให้ใครผิดหวัง
ที่สำคัญยิ่งคือ เจ้าของร้านทั้ง 2 คน หากไม่ติดอะไรก็พร้อมจะคอยต้อนรับเพื่อสร้างความประทับใจแบบเป็นกันเองตลอดเวลา โดย “ร้านบลูสไมล์คาเฟ่” เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. หยุดให้บริการในวันพุธเท่านั้น และหากใครไปไม่ถูกสามารถโทร.สอบถามเส้นทาง หรือจองโต๊ะได้ที่ 06-1230-5147
เรื่อง/ภาพ : วรถพ สังสง, นันทนา โกศล, ธัญสินี สุดทองคง