ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายบุกปล้นแบงก์กรุงไทย ที่แท้ทหารเรือยศจ่าเอก ตร.ประสานทัพเรือภาค 3 คุมตัวส่งมอบตำรวจดำเนินคดี เบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 14.50 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายไทย จำนวน 1 คน ใช้อาวุธปืนเข้าไปชิงทรัพย์ภายในธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาถนนศักดิเดชน์ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยคนร้ายได้เงินซึ่งเป็นธนบัตรชนิดต่างๆ ไปจำนวน 470,760 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ล่าสุด วันนี้ (3 มี.ค.) ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้แถลงข่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายในคดีดังกล่าวโดยทำเป็นจดหมายแถลงข่าวส่งถึงสื่อมวลชน
ซึ่งใจความของจดหมายส่วน กล่าวว่า โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญ การกระทำของคนร้ายเป็นการกระทำอย่างอุกอาจไม่มีความเกรงกลัวต่อบทลงโทษของกฎหมาย สร้างความหวั่นวิตกให้แก่พี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 และ พล.ร.ท.สายัณห์ ประสงค์สำเร็จ ผบ.ทรภ.3 ได้ให้ความสำคัญในการสืบสวนหาตัวคนร้าย ทั้งนี้ บริเวณที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับที่ตั้งทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลวิชิตเป็นอย่างมาก

หลังเกิดเหตุ ผบช.ภ.8 จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ภวัต พรหมมะกฤต รอง ผบช.ภ.8 ลงมาคุมคดีด้วยตนเอง ร่วมกับทาง พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกันคลี่คลายคดี โดยมี พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เป็นหัวหน้าชุดทำงาน โดยมี พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.พิศิษฐ์ ชื่นเพ็ชร รอง ผกก.สส. สภ.วิชิต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รอง ผกก.สส.ภ.จว. ภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส. ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจ กก.สส.ภ.จว. ภูเก็ต และ สภ.วิชิต ร่วมกันสืบสวน จนกระทั่งทราบว่า คนร้ายเป็นทหารเรือที่รับราชการในทัพเรือภาค 3 ทราบชื่อคือ จ่าเอกสหประชา ชฎาวงศ์
หลังจากทราบว่าคนร้ายเป็นทหารเรือ ทางผู้บังคับบัญชากองทัพเรือภาคที่ 3 ได้ติดตามตัวมามอบให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงคุมตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.138/ 2559 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ในข้อหา “ชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน” โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

หลังจากควบคุมตัวจึงได้ร่วมกันตรวจสอบ และตรวจยึดของกลางได้ จำนวน 2 รายการ คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดง-ดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน กทพ 504 พังงา จำนวน 1 คัน และหมวกกันน็อก สีบรอนซ์เงิน แบบครึ่งใบ จำนวน 1 ใบ ทั้งนี้ ผบช.ภ.8 และ ผบ. ทรภ.3 ได้ให้ความสำคัญต่อการรักษาความสงบสุข และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีข้าราชการในสังกัดกระทำผิดจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 14.50 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายไทย จำนวน 1 คน ใช้อาวุธปืนเข้าไปชิงทรัพย์ภายในธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาถนนศักดิเดชน์ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยคนร้ายได้เงินซึ่งเป็นธนบัตรชนิดต่างๆ ไปจำนวน 470,760 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ล่าสุด วันนี้ (3 มี.ค.) ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้แถลงข่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายในคดีดังกล่าวโดยทำเป็นจดหมายแถลงข่าวส่งถึงสื่อมวลชน
ซึ่งใจความของจดหมายส่วน กล่าวว่า โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญ การกระทำของคนร้ายเป็นการกระทำอย่างอุกอาจไม่มีความเกรงกลัวต่อบทลงโทษของกฎหมาย สร้างความหวั่นวิตกให้แก่พี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่ง พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 และ พล.ร.ท.สายัณห์ ประสงค์สำเร็จ ผบ.ทรภ.3 ได้ให้ความสำคัญในการสืบสวนหาตัวคนร้าย ทั้งนี้ บริเวณที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับที่ตั้งทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลวิชิตเป็นอย่างมาก
หลังเกิดเหตุ ผบช.ภ.8 จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ภวัต พรหมมะกฤต รอง ผบช.ภ.8 ลงมาคุมคดีด้วยตนเอง ร่วมกับทาง พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกันคลี่คลายคดี โดยมี พ.ต.อ.พินิจ ศิริชัย รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เป็นหัวหน้าชุดทำงาน โดยมี พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต พ.ต.ท.พิศิษฐ์ ชื่นเพ็ชร รอง ผกก.สส. สภ.วิชิต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน รอง ผกก.สส.ภ.จว. ภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส. ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจ กก.สส.ภ.จว. ภูเก็ต และ สภ.วิชิต ร่วมกันสืบสวน จนกระทั่งทราบว่า คนร้ายเป็นทหารเรือที่รับราชการในทัพเรือภาค 3 ทราบชื่อคือ จ่าเอกสหประชา ชฎาวงศ์
หลังจากทราบว่าคนร้ายเป็นทหารเรือ ทางผู้บังคับบัญชากองทัพเรือภาคที่ 3 ได้ติดตามตัวมามอบให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงคุมตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.138/ 2559 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ในข้อหา “ชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน” โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
หลังจากควบคุมตัวจึงได้ร่วมกันตรวจสอบ และตรวจยึดของกลางได้ จำนวน 2 รายการ คือ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดง-ดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน กทพ 504 พังงา จำนวน 1 คัน และหมวกกันน็อก สีบรอนซ์เงิน แบบครึ่งใบ จำนวน 1 ใบ ทั้งนี้ ผบช.ภ.8 และ ผบ. ทรภ.3 ได้ให้ความสำคัญต่อการรักษาความสงบสุข และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีข้าราชการในสังกัดกระทำผิดจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด