ปัตตานี - ความคืบหน้าเหตุระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านมีตติ้ง เป็นเหตุให้ฐานปฏิบัติการย่อยตำรวจตระเวนชายเสียหายทั้งหมด และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 12 นาย ล่าสุด ทางชุดสืบสวนสอบสวนเรียกร้องให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดใหม่ เพราะวงจรปิดที่มีอยู่ใช้งานไม่ได้
วันนี้ (28 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์หน้าร้านมิตติ้ง เป็นเหตุให้ฐานปฏิบัติการตะวันของ มว.ฉก.11 บ้านงาแม ม.4 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียหายไปกับเปลวไฟที่เกิดจากแรงระเบิด ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ จำนวน 12 คน นอกจากสรรพาวุธ อาวุธปืนของทางราชการที่ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากแล้วนั้น ยังทำให้ทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เก็บไว้ภายในฐานได้รับความเสียหายทั้งหมดไม่มีอะไรหลงเหลือติดตัวไปได้เลย จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 44 นาย ที่พักอยู่ประจำภายในฐานดังกล่าวไม่มีแม้กระทั่งชุดเครื่องแบบ ชุดแต่งกายประจำหน่วยเหลือไว้สักชุดเดี่ยว ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด
จนกระทั่งล่าสุด ทางเพื่อนตำรวจด้วยกันได้เขียนข้อความแชร์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์โดยมีข้อความว่า “ร่วมด้วยช่วยกันประชาสัมพันธ์ความช่วยเหลือสู่กำลังพลที่ประสบภัยครับผม ขออนุญาตพื้นที่นะครับ ถึงผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน จากกรณีฐานปฏิบัติการ มว.ฉก.นปพ.ปน.11 (ฐานปฏิบัติการตะวัน) เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ฐานปฏิบัติการ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ และทรัพย์สินส่วนตัวเสียหายทั้งหมด ตอนนี้กำลังที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ขาดแคลนทุกอย่าง เครื่องแต่งกาย ถุงเท้า รองเท้า หากมีผู้ใจบุญจะบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ติดต่อ ส.ต.ท.อริยะ ลอยลอย (เด่น) 09-5102-1420 นราธิป หมื่นคลิ้ง (เป้) 06-3098-1893 ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มีจิตศรัทธา และเป็นกำลังใจให้พวกเขาปฏิบัติหน้าที่เพื่อดูแลประเทศต่อไป
จนกระทั่งได้รับการตอบรับจากรอง ผกก.สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้ติดต่อจะเรี่ยไรเงินจากเพื่อนตำรวจ สภ.กะทู้ เพื่อนำเงินมาซื้อชุดเครื่องแบบแต่งการของหน่วย นปพ.ซึ่งเป็นชุดสีเขียว ให้ได้เท่ากับจำนวนของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุเหตุการณ์ในครั้งนี้ จำนวน 44 นาย สร้างความดีใจให้แก่กำลังพลที่ทราบข่าวว่าจะมีคนบริจาคชุดเครื่องแบบให้
ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น ทางรอง ผบ.ศชต. ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดีอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะได้สั่งการให้ทางพนักงานสืบสวนและสอบสวนที่รับผิดชอบคลี่คลายคดีเหตุคาร์บอมบ์ในครั้งนี้ ให้เร่งรัดตรวจสอบภาพจากเครื่องวงจรปิด (CCTV) เพื่อให้สามารถระบุตัวบุคคล หรือกลุ่มเครือข่ายที่เข้ามาก่อเหตุในครั้งนี้ แต่เนื่องจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่นั้นส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้งานได้ บางจุดสามารถบันทึกได้แต่ไม่ชัด เพราะกล้องดังกล่าวมีคุณภาพที่ต่ำมาก
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถนำภาพจากกล่องวงจรปิดของหน่วยงานเอกชน และบางส่วนของหน่วยงานตำรวจเองที่สามารถบันทึกภาพของคนร้ายที่นำรถยนต์เก๋งฮอนด้า รุ่นแจ๊ซเข้ามาจอดบริเวณร้านมิดติ้งติดกับรั้วของฐานของเจ้าหน้าที่ แล้วมีรถจักรยานยนต์ขับตามหลังอีกหนึ่งคัน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถระบุบุคคล และกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทางพนักงานสืบสวนและสอบสวนในพื้นที่อยากเรียกร้องให้หน่วยงานรับผิดชอบกล้องวงจรปิด (CCTV) มาเปลี่ยนใหม่ อยากให้เอากล้องที่มีคุณภาพ อย่างน้อยให้สามารถซูมขยายภาพได้ เพราะจะช่วยเสริมในการสืบสวน และสอบสวนคดีได้เร็วขึ้น และแม่นยำมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันในพื้นที่เริ่มมีอาชญากรรมมากขึ้น ที่นอกเหนือจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่คนร้ายนำรถเข้ามาจอดนั้นเจ้าหน้าที่บางคนก็สามารถเห็น และอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ตลอดแต่ไม่เอะใจว่าเป็นรถที่คนร้ายก่อเหตุฆ่าปล้นทรัพย์มา ทั้งๆ ที่คนร้ายไม่ได้มีการเปลี่ยนป้ายแต่อย่างได นึกว่าเป็นรถของลูกค้าของร้านมิตติ้งเข้ามารับประทานอาหาร เพราะลูกค้าร้านอาหารดังมักนำรถมาจอดเป็นประจำ และเนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังไม่อัปเดตข้อมูลว่าเป็นรถต้องสงสัยเหมือนกับรถที่ถูกแจ้งหายมาก่อนหน้านี้ เพราะก่อเหตุฆ่าเจ้าของร้านเพชรเกษมยานยนต์แล้วชิงรถยนต์เก๋งไปมาเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.แล้วนำมาก่อเหตุในเวลาประมาณ 12.30 น. จนกระทั่งเกิดเหตุระเบิดขึ้น อาจเป็นเพราะการสื่อสารระหว่างกันยังขาดประสิทธิภาพ หรือขาดการเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่บางคน จึงอยากให้ผู้บังคับบัญชาเข้มงวดในเรื่องเหล่านี้ด้วยเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเดียวกันซ้ำอีก
ในขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ วังสุภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านอาหารมิตติ้ง ติดกับฐานตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 11 ปัตตานี (มว.ฉก.นปพ.ปน.11) ใกล้ด่านตรวจหน้าบริษัทปัตตานีคอนกรีต ทางเข้าเมืองปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ก.พ.59 เมื่อวานนั้น ทำให้เกิดเพลิงไหม้ฐานปฏิบัติการของตำรวจวอดแทบไม่เหลือซาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ระดมรถแบ็กโฮเข้าปรับพื้นที่ในฐานเพื่อสร้างใหม่ให้เร็วที่สุด เพื่อเรียกขวัญกำลังใจของกำลังพล โดยมีรายงานว่าสิ่งของภายในฐาน รวมทั้งอาวุธปืนถูกเพลิงเผาเสียหายทั้งหมด
