กระบี่ - ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกว่า 500 นาย สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันขาดอายุสัมปทาน บ.ยูนิวานิช พร้อมจับกุมชาวบ้านนับ 100 ราย ดำเนินคดีข้อหารุกที่ป่า
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (25 ก.พ.) กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลายพระยา อ่าวลึก เขาพนม ลำทับ เหนือคลอง และคลองท่อม พร้อมด้วย นปพ. กก.สส.จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กำลังทหาร ร.15พัน 1 รวมกว่า 500 นาย นำโดย พ.ต.อ.ชำนาญ ชำนาญกิจ ผกก.สภ.ปลายพระยา และนายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย และยาเสพติดภายในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันขาดอายุสัมปทานของบริษัทยูนิวานิช จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่ ม.4 ม.5 ม.7 และ ม.8 ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เนื้อที่กว่า 1 หมื่นไร่ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองพระยา หลังมีกลุ่มมวลชนบุกยึดพื้นที่ปลูกเพิงพักอาศัยเพื่อเรียกร้องที่ดินทำกินที่หมดสัญญาสัมปทานต่อกรมป่าไม้ ตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกิดปัญหาความไม่สงบในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีการยิงปะทะกันจนมีผู้ได้บาดเจ็บหลายราย
พ.ต.อ.ชำนาญ เปิดเผยว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา เป็นการดำเนินการตามแผนการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดสัญญาเช่าสัมปทาน ระหว่าง บ.ยูนิวานิชจำกัด (มหาชน) กับกรมป่าไม้ ที่มีกลุ่มมวลชนอ้างว่าไม่มีทีดินทำกินเข้าทำการปักหลักยึดพื้นที่เรียกร้องให้มีการจัดสรรที่ดินดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาเกิดปัญหากระทบกระทั่งกับชาวบ้านในพื้นที่บ่อยครั้งจนเกิดการบาดเจ็บ และเสียชีวิต ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน จึงต้องมีการนำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังออกตรวจสอบตามจุดต่างๆ ในพื้นที่สงวนปาล์มน้ำมัน หมดสัมปทานของบริษัทยูนิวานิชฯ โดยในช่วงเช้าได้นำกำลังเข้าพื้นที่ ม.8 ต.ปลายพระยา พบว่า ยังมีชาวบ้านที่เป็นกลุ่มเกษตรกรเรียกร้องที่ดินทำกินปักหลักอาศัยอยู่จำนวนกว่า 100 คน แต่ไม่พบตัวแกนนำ จากการตรวจค้นตามเพิงพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไว้ พร้อมควบคุมตัวทั้งหมดขึ้นรถผู้ต้องหา ส่ง สภ.ปลายพระยา เพื่อทำบันทึกประวัติ และดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ชำนาญ กล่าวอีกว่า สำหรับแกนนำกลุ่มมวลชนที่เข้าปักหลังยึดพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้มีการขออนุมัติหมายจับกุมไปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา รวมกว่า 200 ราย ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน บางส่วนก็เข้ามอบตัวไปแล้ว ในวันนี้หากพบตัวในพื้นที่ก็จะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิบัติการเข้ายึดคืนพื้นที่ โดยจะใช้ระยะเวลารวม 3 วัน โดยพื้นที่ทั้งหมดทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ เป็นผู้ดูแลพื้นที่ต่อไป
ชาวบ้านรายหนึ่งที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว กล่าวว่า หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นพร้อมยึดทรัพย์สิน และควบคุมพวกตนไปโรงพักปลายพระยา ก็ทราบว่า ได้มีบุคคลจำนวนหนึ่งเข้าไปลักลอบตัดผลปาล์มภายในสวนปาล์ม และโยนความผิดให้แก่พวกตน นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าจะเข้าตรวจค้นยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าจะจับกุมตัวชาวบ้านที่อยู่ในสวนปาล์มด้วย ซึ่งการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้เหมือนกับกลั่นแกล้ง ซึ่งหลังจากนี้พวกตนก็จะหาทางสู้ และเรียกร้องที่ดินทำกินต่อไป