xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูลยื่นหนังสือคัดค้านคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2559 และ 4/2559

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
สตูล - เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมาตรี ผ่าน ผวจ.สตูล คัดค้านมาตราที่ 44 ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2559 และที่ 4/2559 หวั่นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุนบางกลุ่ม และบางเรื่องเท่านั้น

วันนี้ (19 ก.พ.) นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล พร้อมคณะภาคประชาชนจังหวัดสตูล และตัวแทนชาวบ้านประมาณ 20 กว่าคน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องขอให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2559 และที่ 4/2559 ผ่านทาง นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผวจ.สตูล ที่ศาลากลางจังหวัดสตูล ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล

โดยทั้งนี้ ทางเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล มองว่า การใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ที่มีเจตนารมณ์เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปในด้านต่างๆ การส่งเสริมความสามัคคี และความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย หรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน แต่การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 3/2559 และ 4/2559 โดยใช้อำนาจตามมาตรา 44 นั้น
 

 
เครือข่ายฯ เห็นว่าคำสั่งหัวหน้าทั้งสองฉบับจะก่อให้เกิดความยุ่งยากในการบริหารบ้านเมืองในอนาคต เพราะถือเป็นการไม่ยอมรับระบบการออกแบผังเมืองในระดับจังหวัด และการออกแบบผังเมืองรวมที่มีการจัดทำขึ้นจากกระบวนการที่มีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งที่จริงแล้วจะต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนที่ได้มีการแสดงความคิดเห็น และออกแบบการใช้ประโยชน์ในท้องถิ่นของตนเองไปแล้ว เพื่อให้สอดคล้องเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อม และรวมถึงสภาพเศรษฐกิจที่ควรจะเป็น 

ดังนั้น การออกแบบคำสั่งทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวก็เพียงเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มทุนบางกลุ่ม และบางเรื่องเท่านั้น อย่างเช่น การเอื้อประโยชน์ให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล และเชื้อเพลิงขยะ ทั้งที่เคยมีกฎระเบียบเพื่อควบคุมเพื่อให้การก่อสร้างโรงไฟฟ้าชนิดนี้อยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอันใดที่จะต้องออกคำสั่งเพื่อเอื้อประโยชน์ดังกล่าว

การใช้อำนาจพิเศษดังกล่าวยังจะสร้างความขัดแย้งระหว่างชุมชนกับผู้ประกอบการธุรกิจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศ อันเป็นการก้าวเดินที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐบาล และ คสช. ซึ่งจะเห็นได้จากกรณีของความพยายามที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล และโรงไฟฟ้าขยะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันของ อ.ควนกาหลง จ.สตูล ทั้งที่ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยรับรู้เรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด มีเพียงผู้นำท้องถิ่นเฉพาะกลุ่มเท่านั้น และที่สำคัญคือ การมีโรงไฟฟ้าอยู่ในหมู่บ้านเดียวถึง 2 โรงด้วยกันถือเป็นความเลวร้ายอย่างยิ่งต่อมลพิษที่จะเกิดขึ้นต่อคนพื้นที่ในอนาคต และเชื้อว่าเรื่องนี้ก็จะกลายเป็นความขัดแย้งของคนในพื้นที่ด้วยกันเอง และอาจจะกลายเป็นความขัดแย้งกับนักลงทุนภายนอกที่จะเข้ามาก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวอีกด้วย 
 

 
จากคำสั่งนี้เชื้อว่าจะทำให้เกิดกรณีความขัดแย้งดังกล่าวกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศอย่างแน่นอน จากเหตุผลดังกล่าวมาทั้งหมด การประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไม่เข้าเงื่อนไขตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 44 เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตที่พึงกระทำ ไม่บรรลุประโยชน์ในการปฏิรูป หรือส่งเสริมความสามัคคีสมานฉันท์ของประชาชนตามที่มาตรา 44 ได้กำหนดไว้ และเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างใดที่จะเร่งออกคำสั่งดังกล่าวเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มนักลงทุน โดยละเลยกระบวนการทางกฎหมายที่มีอยู่เดิม และที่สำคัญคือ การเคารพต่อการตัดสินใจของประชาชนในพื้นที่ที่ได้มีการออกแบบระบบผังเมืองของตนเองไว้แล้ว

เราในนามเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล และองค์กรภาคประชาชนอื่นๆ ขอเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาลให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2559 และที่ 4/2559 ในทันที ทั้งนี้ เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล จะร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนอื่นๆ ทั่วประเทศจะเข้าร่วมติดตามคำตอบ และทวงถามความยุติธรรมอีกครั้งในวันที่ 23 ก.พ.59 ที่ทำเนียบรัฐบาล
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น