ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รวบหนุ่มคิดสั้นปล้นชิงสร้อยคอทองคำ 2 เส้น รวมหนัก 4 บาท ที่ร้านทองหาดใหญ่ สารภาพทำเพราะต้องการหาเงินไปไถ่รถเก๋งคืน
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกุล (ผทค.) หัวหน้างานสอบสวน พ.ต.ท.เอกรัฐ สวนแสน รอง ผกก.สส. ได้นำตัว นายสุทธิพงค์ ถาวรศักดิ์ หรือบอล อายุ 30 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 6 ต.ท่าอุเทน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น รถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีเทา หมายเลขทะเบียน ขท 5150 สงขลา จำนวน 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฎ 4764 สงขลา จำนวน 1 คัน เสื้อวอร์มกีฬาแขนยาวสีฟ้า กางเกงยีนส์ รองเท้า และหมวกนิรภัยที่ใช้ในวันก่อเหตุมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้เข้าไปก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น ที่ร้านทองไทยยินดี ถนนมนตรี 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วหลบหนีไป ต่อมา พ.ต.ท.เอกรัฐ สวนแสน รอง ผกก.สส. ร.ต.ท.มนตรี ขุนศรีจันทร์ รอง สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบหาดใหญ่อีกจำนวนหนึ่งได้ทำการเกาะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิด พร้อมวางแผนในการจับกุม ซึ่งต่อมา ในวันที่ 18 ก.พ.59 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวก็สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหลังตลาดเกษตร หาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ พร้อมตรวจยึดของกลางที่นำมาแถลงข่าวได้
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา นายสุทธิพงค์ ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ (สร้อยคอทองคำ) ของผู้อื่น หรือรับของโจร คุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอลบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ในชั้นนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เหตุที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ในครั้งนี้เพราะอารมณ์ชั่ววูบ และต้องการเงินสดไปไถ่ถอนรถเก๋งที่นำไปจำนำไว้ในราคา 50,000 บาท ส่วนที่เลือกก่อเหตุที่ร้ายทองร้านนี้เป็นเพราะไม่มี รปภ. และพนักงานเป็นผู้หญิง ที่สำคัญให้ลูกค้าลองสวมใส่สร้อยคอทองคำได้ จึงตัดสินใจเลือกก่อเหตุร้านนี้ โดยใช้เวลาขับรถ จยย.เวียนดูลาดเลาก่อนถึง 3 วัน ตนเองเป็นอดีตพนักงานของร้านไทวัสถุก่อสร้าง ตกงาน ออกมาขายเสื้อผ้าชุดกีฬา แต่ระยะนี้เศรษฐกิจไม่ดีจึงคิดสั้นก่อเหตุขึ้น จนมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้
ส่วนสร้อยคอทองคำหลังก่อเหตุได้นำไปขายทั้ง 2 เส้น ได้เงินสดมาประมาณ 70,000 กว่าบาท นำไปไถ่ถอนรถเก๋งที่นำไปจำนำ จำนวน 55,000 บาท ที่เหลือก็นำใช้จ่ายไปบ้าง
